วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ครีมอาบน้ำเขม ผิวนุ่มหอมอย่างมีระดับเหมือนอาบน้ำในสปาสุดหรู

สวัสดีค่าทุกคนน 
ไม่ได้เจอกันนานเลยเนอะ ปกติขวันจะสิงอยู่แต่ใน Instagram 

วันนี้ฤกษ์งามยามดี
ได้สินค้าน่าใช้มาจากแบรนด์

KHEM
อ่านว่า เขม 

โดยผลิตภัณฑ์ของเขานั้นเ ป็นครีมอาบน้ำที่เน้นความเป็นไทยด้วยแพ็คเก็จ สี ลวดลาย การออกแบบหรือแม้กระทั่งกลิ่น โดย concept ของแบรนด์นี้ทำขึ้นเพื่อคนที่มีปัญหาผิวแห้งและแพ้ง่าย โดยคัดสรรวัตถุดิบจาก ดอกไม้หายากจำนวน 9 ชนิด ผสมกับน้ำมันธรรมชาติอย่าง
Inca Inchi Oil, Macadamia Nut oil และ Rice bran oil
เพื่อบำรุงให้ผิวนุ่มชุมชื่นและลดโอกาสในการแพ้

บอกเลยว่าตอนแรกที่ได้มาไม่คิดว่าเป็นแบรนด์ไทยด้วยซ้ำ เพราะกล่องสวยมากดูดีมากกก
โดยกล่องนี้นะคะ ก็จะเป็นเซ็ตของขวัญแหละ โดยภายในก็จะมีครีมอาบน้ำทั้งหมด 3 สูตรและผ้าขนหนูปักลายเขม  


โดยชื่อ เขม แปลว่า"ความสุขใจ" และสัญลักษณ์ ก็จะเป็นสัญลักษณ์ประจำยาม ซึ่งเป็นลวดลายจักสานแบบไทยที่มีประวัติอันยาวนาน 


 โดยในเซตที่ขวัญได้มาจะมีครีมอาบน้ำทั้งหมด 3 สูตรค่ะ 
คือ

 เนื้อครีมอาบน้ำนุ่มมากกก เหมือนครีมทาผิวเลยด้วย ตอนแรกนึกว่าอ่านผิด 5555555
ฟองเยอะกำลังดี อาบแล้วไม่ทำให้ผิวแห้งตึงเลย สบายผิวมากก


  1. Realaxing & Soothing  กลิ่นจะหอมตะไคร้ ช่วยให้ผ่อนคลาย
  2. Whitening & Illuminating กลิ่นดอกไม้ สดชื่น  มีกลิ่นแป้งนิดๆ
  3. Firming & Hydrating กลิ่นดอกไม้หอมหวาน กระปรี้กระเปร่า
จุดเด่น 
นอกจากจะทำให้ผิวชุ่มชื้นแล้ว สำหรับใครที่ต้องเจอกับมลภาวะ นั่งห้องแอร์ โดนแดดเผา หรือมีอาการคันจากผืนแพ้  ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ สามารถช่วยลดอาการคันจากผื่นแพ้ และช่วยเรื่องสิวที่หลังได้ มีสารยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีกว่าวิตามินอีถึง 6 เท่า มีโอเมก้า 6 ช่วยให้ผิว เต่งตึง เปล่งปลั่ง ชะลอริ้วรอยได้ด้วย เป็นมากกว่าแค่ครีมอาบน้ำให้ชุ่มชื้นหรือกลิ่นหอมทั่วไปเลย  



ที่สำคัญแบรนด์ เขม ไม่มีการใช้สารเคมีที่ส่งผลเสียต่อผิวคุณในระยะยาว เช่น SLS, SLES, Paraben, Sulfate, Silicone, Colorant, PEG ด้วยน้า หมดกังวลเรื่องสารเคมีต่างๆได้เลยค่ะ 


แม่ขวันชอบกลิ่น
Realaxing & Soothing มากก เพราะใช้แล้วมันมีกลิ่นหอมตะไคร้ โล่งจมูกค่ะ

ส่วนขวันไม่ต้องเดา ชอบกลิ่นดอกไม้หอมๆค่า ติดผิวดีด้วย 

ขวันชอบที่สามารถบิดหัวปั๊มเก็บได้ด้วยนะ หมุนลงล้อคกันหกเลอะเทอะได้ค่ะ 
หัวปั๊มยาวพอที่จะปั๊ม 1 ครั้ง ใช้ได้ทั้งตัวเลย 


ใครที่สนใจซื้อแบบเซทของขวัญ Khem Natural Shower Cream Box Set (Limited Edition)  
ราคาเซ็ตละ 2,670 บาท หรือซื้อกลิ่นที่ชอบในราคาขวดละ 890 บาท
บรรจุในกล่องสวย มีผ้าขนหนูปักลายเเบรนด์ และมีครีมอาบน้ำ 3 กลิ่น


 ก็สามารถไปหาซื้อได้ที่ 

- แฟนเพจ : https://www.facebook.com/KHEMcorp/
- Line : @khemcorp
- เว็บไซต์ eCommerce ชั้นนำ เช่น www.beautynista.comwww.jd.co.thwww.lazada.co.thwww.shopee.co.thwww.11street.co.th


สำหรับบล๊อกนี้ขวันก็ขอจบเพียงเท่านี้น้า เจอกันใหม่ค่าา บ๊ายบาย

วันเสาร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2561

Vit C 10% สูตรอ่อนโยนและสเถียร ในราคาหลักร้อยจาก Cutepress



ปัจจุบันทุกคนน่าจะรู้จักข้อดีของ
Vitamin C ในรูปแบบสกินแคร์ดีเนาะ

ไม่ว่าจะเป็น ลดเลือนริ้วรอย ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ต่อต้านอนุมูลอิสระ

แต่ต้องขอบอกเลยว่า วิตามินซีดีๆ ที่สเถียร และใส่มาเยอะๆนั้น ค่อนข้างมีราคาสูง
ยิ่ง % เยอะ ยิ่งช่วยได้หลายอย่างมากขึ้น และเห็นผลได้ดีขึ้น

เราจึงมักจะเห็นวิตซีเปอร์เซนสูงๆ เกิน 5% ขึ้นไป ในราคาแพง 

อาจจะหลักร้อยปลายๆ ไปจนถึง 3-5 พันบาทเลยทีเดียว

แต่วันนี้ขวันมาแนะนำวิตซีตัวนึงที่

- สเถียร
- ใส่มา 10%
- คาดหวังผลได้
- ราคาถูกด้วย

นั่นก็คือแบรนด์

cutepress 

นั่นเองงงง เซทนี้เลยยย 


จุดเด่นของวิตซีรุ่นนี้คือทางแบรนด์ไม่ได้สักแต่ใส่ๆวิตซีมา แล้วมาเคลมว่า ชั้นมีวิตซีนะ ทาเเล้วผิวกระจ่างใส 

แต่ทางแบรนด์ได้ใช้วิตซีคุณภาพดี ที่มีความทันสมัย เอาง่ายๆว่าวิตซีรุ่นเก่าๆ จะต้องใส่ในแพคเกจทึบแสง เพราะมันสลายง่าย และไม่สเถียร 

แต่วิตซีที่ทาง cute press ใส่มานั้นเป็นวิตซี Ascorbyl Glucoside
ที่ละลายในน้ำได้ดี ทนต่อความร้อน (ทาออกแดดได้จ้า)

และยังมีสารบำรุงดีๆเยอะ ที่ถูกใส่มาในผลิตภัณฑ์เช่น
Niacinamide , Ceramind , Collagen




โดยสินค้าเค้ามีออกมาทั้งหมด 3 ตัว ให้ทุกคนเลือกใช้กัน
หรือจะใช้ทั้งหมดเลย ก็ได้ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพ โดนมีลำดับการใช้ดังนี้
เริ่มจากน้ำใสๆ อย่าง

Super Strength Vitamin C Essence Lotion


เรียกง่ายๆว่าตัวโลชั่นแล้วกันน้า


จะเห็นจากส่วนผสมว่าตัวนี้ใส่
Ascorbyl Glucoside  มาเป็นอันดับต้นๆเลยเด้ออออ 


โดยที่เนื้อโลชั่นจะค่อนข้างหนืด ดึ๋งๆนิดนึง ไม่ได้เหลวไปเลยแบบน้ำใสๆขนาดนั้น
การทาแล้วนวดสักพักจะรู้สึกว่ามันเป็นสีขาวๆขึ้นมา

ตอนแรกขวันตกใจ คิดว่ามันไม่ซึมหรืออะไร จนทางแบรนด์ได้มาบอกว่ามันแตกตัวเป็นน้ำนม
เลยสบายใจไปหน่อย  ส่วนเนื้อโลชั่นค่อนข้างมีความเข้มข้นนิดนึง

แต่ด้วยส่วนผสม เนื้อสัมผัสที่ลื่นนุ่ม มีน้ำหอมน้อยมากกก (อยู่ในลำดับสุดท้าย) ขวันว่ามันน่าจะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบบำรุงอะไรเยอะๆ และอยากหาอะไรชุ่มชื้นมาใช้เป็นขั้นตอนแรกของการเตรียมผิว
ตัวนี้น่าจะเหมาะเลย เพราะได้เรื่องกระจ่างใสเข้ามาด้วย

มาดูขั้นตอนที่2เลย

Super Strength Vitamin C Essence Serum



ตัวนี้เป็นเหมือนตัวเข้มข้น ชูโรงเลยจ้า เพราะนางเป็น Booster มี Vitamin C  มากถึง 10%
แบรนด์เคลมว่าตัวนี้เป็นตัวที่ให้ประสิทธิภาพสูง เห็นผลใน 7 วัน 
เเละเป็นเนื้อเซรั่มเข้มข้นเลย

มี 2 ไซส์ให้เลือกด้วยน้า น่ารักมากๆๆ ส่วนตัวขวันชอบไซส์เล็กนะ มันพกง่ายดี


ในส่วนของเนื้อสัมผัสนั้น


เนื้อเซรั่มข้นๆ สีขาว แนะนำว่าให้ทาเริ่มจากน้อยๆ แล้วค่อยทาให้มันซึมลงไป
เเล้วถ้ารู้สึกว่าไม่พอ ค่อยเพิ่มปริมาณเอา เพราะส่วนตัวขวันลองทาทีละเยอะๆเเล้วมันเป็นแบบในรูป
ไม่ใช่เรื่องไม่ดีอะไร แต่แค่ขวันทาแล้วไม่ชอบให้มันเป็นขาวๆ มันจะรู้สึกเหมือนมันไม่ซึมอะ(เเต่จริงๆมันซึมนะ) 55555

ส่วนตัวชอบตัวนี้นะ แต่ยังไม่ชอบเท่าตัวสุดท้ายที่จะพูดถึง

Super Strength Vitamin C Brightening Moist Gel


ถึงแม้ตัวนี้จะไม่ได้มีวิตซีเจ้มจ้นมากเท่าตัวเซรั่ม ที่มีถึง 10% แต่เป็นตัวที่ขวันชอบฟีลลิ่งตอนทามากที่สุด
เพราะนางเป็นแบบ Moist Gel ที่เน้นให้การชุ่มชื้นด้วย Ceramind และ Niacinamide 


ในส่วนของเนื้อสัมผัสที่ชอบจะเป็นเจลขุ่นๆแบบนี้

ทาไปแล้วจะรู้สึกว่ามันหนานุ่ม ลื่นมากกก เคลือบผิวไว้บางๆด้วย
เพื่อป้องกันไม่ให้ความชุ่มชื้นระเหยออกจากผิวในตอนกลางวัน หรือกลางคืนที่เราทาแล้วนอน

ที่สุดคัญที่สุดคือฟีลลิ่งเบาสบาย และไม่เหนอะหนะเลย สามารถนอนได้สบายๆโดยที่หน้าไม่เหนอะติดหมอนเลยจ้า 

โบกหนาๆเป็น Sleeping Mask ได้ด้วยน้า ชอบมากกก ยิ่งแช่เย็นยิ่งฟินน

แต่บอกเลยว่าถ้าแช่ รูขุมขนจะกระชับ ผิวจะหดตัวลง อาจทำให้การซึมของสกินแคร์ยากขึ้นนิด
แต่สามารถทำได้ เพื่อให้ได้ฟีลลิ่งสดชืนนนน ขวันก็ชอบนะ 555555 


สุดท้ายแล้วเราอยากจะบอกว่า ชอบเจลมากจริงๆ
ตอนนี้ใช้บ่อยมากๆ เกือบทุกวันเลย ถ้าไม่ลืม 555555 เพราะตอนนี้รู้สึกว่าหน้าคล้ำขึ้น
ก็คงจะหวังให้ cutepress ตัวนี้ช่วยแหล่ะ

เบื้องต้นใช้มา 7 วันแล้ว
ยังไม่ได้รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงมาก เพราะขวันก็ไม่ได้คล้ำขนาดนั้น แต่เดี๋ยวจะรอดูในเรื่องของจุดด่างดำบนหน้า ว่ามันทำได้ขนาดไหน

นับว่าเป็นสกินแคร์ที่เน้นเรื่องกระจ่างใส ส่วนผสมดีเริ่ด ในราคาที่ไม่น่าจะทำได้อะ

ใครผ่านไปผ่านมาร้าน cutepress ก็ไปลองเนื้อสัมผัสกันได้น้า

บ๊ายบายค่า



Blackmores ในรูปแบบครีมทาผิว และคอลลาเจนแบบดื่ม!


หลายๆคนน่าจะรู้จัก Blackmores 
ในฐานะแบรนด์ผิลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ในรูปแบบของเม็ดแคปซูลบรรจุขวดเนอะ

แต่วันนี้ Blackmores เค้ามาในรูปแบบของสกินแคร์ทาผิวหน้า 
และคอลลาเจลแบบยกดื่มเก๋ๆแล้วจ้าาา

โดยยังคงคงคอนเซปต์บำรุงผิว บำรุงร่ายกาย โดยผ่านการคิดค้น 
ผ่านการทดลองโดยแพทย์มาอย่างดีเหมือนเดิม

เรามาดูกันว่ามีอะไรใหม่บ้างงง



โดยแบบเนื้อครีมมีทั้งหมด 4 สูตร

 1.Blackmores Natural Vitamin E Cream Lanolin
2.Blackmores Natural Vitamin E Cream Firm & Smooth Skin
3.Blackmores Natural Vitamin E Cream Skin Bright
4.Blackmores Natural Vitamin E Cream Skin Barrier

และแบบดื่มอร่อยๆมี 2 สูตรด้วยกัน


เรามาดูสกินแคร์ที่ใช้บำรุงผิวกันก่อนเลย ว่ามันช่วยเรื่องอะไรบ้าง


 1.Blackmores Natural Vitamin E Cream Lanolin

วิตามินอีครีมเนื้อเนียนนุ่มอุดมด้วยสารที่มอบความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยฟื้นบำรุงผิวแห้งกร้าน เหมาะสำหรับทั้งใบหน้า มือและลำตัว โดยมีส่วนผสมเข้มข้นจาก vitamin E และ ลาโนลิน
น้ำมันสกัดจากผลอโวคาโด และเมล็ดแอพลิคอท ที่ช่วยบำรุงผิว และลดการระคายเคืองได้




(หัวปั๊มสุญญากาศที่จะดึงเอาเนื้อครีมออกมาหมดจนหยดสุดท้าย)


 2.Blackmores Natural Vitamin E Cream Firm & Smooth Skin

ซากุระตะวันตกและน้ำมันต้นกระทิง วิตามินอีจากธรรมชาติ น้ำมันสกัดจากผลอโวคาโด และเมล็ดแอพลิคอท ที่เน้นลดเลือนริ้วรอย ยกกระชับผิว และปลอบประโลมผิว


 3.Blackmores Natural Vitamin E Cream Skin Bright

ซากุระตะวันตกและน้ำมันต้นกระทิง+สารสกัดรากชะเอมเทศและสาหร่ายวากาเมะช่วยปรับสีผิวให้ดูขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติตามินอีจากธรรมชาติ  วิตามินอีจากธรรมชาติ น้ำมันสกัดจากผลอโวคาโด และเมล็ดแอพลิคอท ช่วยบำรุงให้ความชุ่มชื้น ปลอบประโลมผิว

 4.Blackmores Natural Vitamin E Cream Skin Barrier

อุดมด้วยโอเมก้า 6 และ 9 เคลือบเป็นฟิล์มบางๆ บนชั้นผิว ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวจากมลภาวะและกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวสาหร่าย น้ำมันเมล็ดองุ่น ช่วยปลอบประโลมและโอบอุ้มผิวให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ


เนื้อครีมทั้ง 4 รุ่น เรียงตามลำดับ ซ้ายไปขวา

เนื้อครีมมีความเข้มข้นมาก ใครที่หน้ามัน แนะนำให้ทาบางๆนะคะ ไม่งั้นอาจจะรู้สึกหนักผิวไปได้บ้าง ใครที่หน้าแห้งสามารถทาได้โดยไม่ตอ้งกลัวอุดตันค่ะ


โดยที่ครีมทั้งหมดนั้น เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย เพราะปราศจากสี น้ำหอม และสารพาราเบน


มาถึงแบบดื่มกันบ้างงง มี 2 สูตรด้วยกันน


อันนี้เป็นสูตรทับทิม สารสกัดจากผลทับทิม สารสกัดมะขามป้อม และ มีผงน้ำซีบัคธอร์น 
ผงมะกอกเข้มข้น ที่อร่อยมากกก แนะนำให้แช่เย็นจัดๆ แล้วดื่ม สดชื่นมากๆ  เป็น Dietary Supplement 



 สีน้ำเงินเป็นสูตรคอลลาเจนเข้มข้น แช่เย็นๆดื่มแล้วอร่อยเช่นกัน มีรสเปรี้ยวๆ
เป็นคอลลาเจน 10,000 มิลลิกรัมเลย มีสารสกัดจากเมล็ดองุ่น ผงคลอเรลลา และสารสกัดจากข้าว


ใราที่สนใจก็สามารถหาซื้อได้ตามร้าน Drugstore ทั่วไปแล้วน้าาา 

บล๊อกนี้ก็ไปก่อน บ๊ายบายค้าบ 
 

วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

MizuMi น้ำตบมารีนชูการ์ให้ผิวชุ่มชื้น+กระจ่างใส

สวัสดีค้าบบบ ทุกคนน ห่างหายจากการเขียนบล๊อกมานานเลย
วันนี้กลับมาพร้อมกับไอเท็มเด็ด ที่มาตอบโจทย์คนที่อยากเติมน้ำให้ผิว และอยากให้หน้ากระจ่างใสไปด้วยในตัว ปกติสกินแคร์ที่ทำให้ผิวกระจ่างใสเนี่ย ส่วนผสมใน Whitening ส่วนใหญ่จะระคายเคืองง่าย ไม่ค่อยเหมาะกับคนที่เป็นสิวอยู่ หรือผิวบอบบาง ส่วนตัวขวันเป็นคนที่เลี่ยงสกินแคร์ Whitening มาตลอดเหมือนกัน เพราะระคายเคืองง่าย

แล้วในที่สุดตอนก็มีสกินแคร์ที่ออกมาตอบโจทย์คนผิวแพ้ง่ายที่อยากหน้าขาวกระจ่างใสซะที เย้ๆๆๆ

นั่นก็คือ

MizuMi
Marine Sugar White Essence 



น้ำตบมารีนชูการ์



น่าจะคุ้นหน้าคุ้นตาแบรนด์นี้กันอยู่แล้วเนอะ ใครที่ผิวแพ้ง่าย ต้องรู้จักแน่นอน เพราะจุดเด่นของแบรนด์ MizuMi คือความอ่อนโยนสุดๆ มีคุณภาพ เป็นที่รู้ๆกันว่าแบรนด์นี้เค้าจะเน้น
 
5 Free คือ
ไม่มีแอลกอฮอล์
น้ำหอม
สีสังเคราะห์
พาราเบน
และน้ำมัน

เพราะฉะนั้น ผิวแพ้ง่าย บอกเลยว่าค่อยข้างปลอดภัยสูงเลย โอกาสน้อยมากที่จะแพ้ (แต่ไม่ได้บอกว่า ไม่แพ้แน่นอน100% อันนี้ก็น่าจะเคลมแรงเกินไปนิด)

และด้วยสูตรนี้ เน้น 2 อย่างคือ

เน้น "เติมน้ำให้ผิว" + "ขาวกระจ่างใสแบบธรรมชาติ



เค้าจึงได้ใส่ส่วนผสมอย่าง

Nag 3%

N-Acetyl Glucosamine (NAG) 
(น้ำตาลอะมิโนสกัดจาก ShellFish)



ทำให้ผิวกระจ่างใส กระตุ้นการสร้างสาร Hyaluronic Acid ใต้ผิวหนัง ซึ่งเป็นเหมือนสารกักเก็บความชุ่มชื้นของผิวหนังเรา

พร้อมกับ

Niacinamide 4%
หรือ Vitamin B3 นั้นเมื่อใช้ทาผิวต่อเนื่องเป็นเวลา 2 สัปดาห์ สามารถช่วยให้ริ้วรอย จุดด่างดำ ร่องลึกดูจากลง นอกจากนี้ยังทำให้ผิวที่แห้งกร้านมีความชุ่มชื้นเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย เเละเป็นสารที่ช่วยลดเม็ดสีเมลานินด้วย

และเมื่อ2ส่วนผสมมารวมกัน เสริมการทำงานร่วมกัน ก็จะยิ่งทำให้ผิวเรานั้นชุ่มชื้น อิ่มน้ำ และดูขาวกระจ่างใสขึ้นได้ด้วย

GO-VC วิตามินซี  
นวัตกรรมใหม่จาากญี่ปุ่น ท่ีมีความเสถียรสูง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เติมเต็ม Collagen และ fibroblastในชั้นผิว คืนความยืดหยุ่นให้ผิว




เนื้อเอสเซ้นส์เหลวมากกก แทบจะเหมือนน้ำเปล่าเลยค่ะ ไม่มีกลิ่น ไม่มีสีใดๆทั้งสิ้น
ขวันชอบฟีลลิ่งสะอาดๆนี้มาก

แต่

แอบคิดในใจว่า เหลวขนาดนี้ มันต้องทาแล้วหายไปหมดแน่นอน ไม่ชุ่มชื้นแน่ๆ



เเต่พอไปลองทาลงผิวจริงๆจังๆ 

ขวันทาใส่ฝ่ามือประมาณ 3-4 หยดต่อ1หน้านะ

พบว่าซึมไวมากกกกก เหมือนมันซึบซาบเข้าผิวไปหมด ก็แบบ เอ๊ะ ไม่น่าพอแน่ๆ


เนี่ยย อย่างในรูปจะเห็นว่ามันแทบมองไม่เห็นเลย ว่าทาอะไรลงไป มันซึมไวมากค่ะ

เเต่พอลองทิ้งไว้จนมันซึมหมดจริงๆประมาณ20วินาที
พอเราจับผิวอ่ะ เห้ยยย มันชุ่มชื้นนะ มันไม่ได้แห้งหายไปหมดทีเดียว

ผิวจะมีความชื้นๆ เเละรู้สึกสบายผิวมากๆเลยเเหล่ะ

ส่วนตัวคิดว่า น่าจะเอามาเหยาะใส่สำลีสำหรับมาส์กหน้าได้เลย
เป็นอีก 1 วิธีเก๋ๆ ที่แนะนำให้ลองทำกันดู

คะแนนในส่วนของความชุ่มชื้น 7/10 เลย เอามาทำเป็นโทนเนอร์ หรือ First Care เพื่อเอื้อให้ขั้นตอนการทาสกินแคร์ขั้นตอนต่อไปซึมดีขึ้นได้ดีมากกก เพราะผิวชื้นกำลังดี ไม่เหนอะหนะ ไม่หนาไป ไม่บล๊อกขั้นตอนสกินแคร์อื่นๆ
ซึ่งคะแนนความชุ่มชื้นขวัญเทียบกับ moisturizer เนื้อครีมหนักๆ 

สบายผิว ให้ 10/10 เลย สบายผิวมากกก ไม่หนักผิว ไม่มีน้ำหอม รู้สึกดีมากก 

อ่อนโยน   10/10 เลย ด้วยความที่เนื้อบางเบามาก ไร้น้ำหนักเลย ไม่มีสี กลิ่น น้ำหอม ซิลิโคนต่างๆ ทำให้โอกาสการเกิดสิวอุดตันน้อยมากกกกกก น่าจะไม่ทำให้ระคายเคืองได้เลยค่ะ 

หน้ากระจ่างใส 
หลังจากได้ทดลองใช้มาแค่ไม่กี่วัน จากคำเคลมคือประมาณ 1 อาทิตย์เนอะ ความกระจ่างใสเลยยังไม่ได้เห็นผลมาก แต่ไว้จะมาอัพเดตกันต่อแน่ๆค่ะ ติดตามตอนต่อไปได้ที่ IG : Khwanvasinee ได้เลย



สรุป

เหมาะกับทุกสภาพผิว คนแพ้ง่าย คิดว่ามีโอกาสเเพ้น้อยมาก เนื้อซึมไว หน้ามันใช้ได้ดี และนำมาใช้เป็นขั้นตอนแรกในการทาสกินแคร์ (เพราะบางสุด)  

เติมน้ำให้ผิวและมีสารWhitening ที่คาดหวังผลได้ จึงตอบโจทย์คนแพ้ง่าย ที่อยากหน้าขาวกระจ่างใสด้วย

ก็สำหรับใครที่สนใจน้า เค้าวางขายเเล้วเด้อ
ขนาด 125 ml
 
ราคา1,390บาท

หาซื้อได้ที่
Watsons, EVEANDBOY, Tsuruha, Beautrium สามารถเช็ค
ร้านค้าที่จําหน่ายเพิ่มเติม ได้ทาง 


บล๊อกนี้ก็ลาไปก่อนน้าา บ๊ายบายค่า 



เซทรักษาสิวใหม่จาก Oriental Princess Skin Solution Conplex


สวัสดีค่าาา


ไม่นานมานี้ทางแบรนด์ Oriental Princess ได้ส่งเซทดูแลผิวเป็นสิว มาให้ขวันได้ลองใช้

พอดีมีสิวเลยได้ฤกษ์ลองใช้จริงๆจังๆซะที

เเต่เอาเป็นว่าทางเราได้ใช้ไปบ้างแล้ว


จึงได้เอามารีวิวกึ่งๆพรีวิว ให้ทุกคนได้อ่านกันนะคะ

ว่าแต่ละตัวเป็นอย่างไร เพื่อช่วยในการตัดสินใจค่าา

สภาพผิวปกติของขวัน
-หน้ามัน
-ระคายเคืองง่าย
-เป็นสิวบ้างประปราย
-รูขุมขนกว้างนิดหน่อย


เซทที่เค้าส่งมาให้ขวันคือเซทใหญ่นี้เลย


Oriental Princess 

Skin Solution Complex



จุดเด่นของเซตนี้คือราคาไม่แพง และใช้สารสกัดจากธรรมชาติที่เน้นรักษาสิวและช่วยปลอบประโลมผิวได้ดี

และทาง OP ยังมีนวัตกรรมเจ๋งๆแบบใหม่ที่เรียกว่า Natural Expert CareTM(***ยกTMขึ้นนะคะ) ประกอบด้วย

Skinnosome™ ที่เป็นนวัตกรรมที่ทำให้สารออกฤทธิ์ได้อย่างช้าๆแต่ต่อเนื่อง
ทำให้เวลาที่เราใช้ มันจะออกฤทธิ์ได้นานขึ้น รักษาสิวได้ดีขึ้นนั่นเอง
โดยหลักการทำงานของทั้งเซทนี้จะเน้นไปที่
การป้องกัน - การรักษา
คือป้องกันสิวตั้งแต่ต้นเหตุ และถ้าเป็นสิวอยู่เดิมแล้ว ก็รักษาที่ปลายเหตุให้ด้วย

จะเป็นหลักการดังนี้

  1. เร่งขบวนการผลัดผิว เน้นทำให้รูขุมขนสะอาด ไม่มีสิวอุดตัน พอเราไม่มีสิวอุดตัน สิวอักเสบก็จะน้อยลงไปเอง + กับการได้ผิวที่เรียบเนียนขึ้นด้วย
  2. .ลดและยับยั้งการอักเสบของสิวอักเสบ เน้นลดการอักเสบของสิว ทำให้สิวยุบบวม ลดความแดงสิวได้
  3. เสริมสร้างเกราะของผิว เวลาคนเป็นสิวเยอะๆ ผิวจะเริ่มอ่อนแอลง เเละเสียสมดุลย์ ทำให้เป็นสิวง่ายกว่าเดิม แพ้ง่ายกว่าเดิม การเสริมสร้างเกราะของผิวจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คนเป็นสิว ผิวดีขึ้นได้
  4. เน้นให้ความชุ่มชื้น   คนเป็นสิวจะชอบละเลยการบำรุงผิว เพราะคิดว่าเป็นสิวไม่ควรทา Moisturizer บำรุง เพราะจะกวนสิว ทำให้หน้าแห้ง และลอก เป็นผื่นแดงตามมาได้ และยิ่งทำให้ผิวอ่อนแอ ก็วนกลับไปเป็นสิวอีก เพราะฉะนั้นเซทนี้นอกจากจะช่วยรักษสิวแล้ว ยังช่วยไม่ให้ผิวสูญเสียน้ำในผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นด้วย


คนส่วนใหญ่ เอาง่ายๆก็ Follower ขวันนี่เเหล่ะ 55555 ไม่ค่อยรู้ขั้นตอนการใช้สกินแคร์ และไม่ทราบว่าควรใช้ตัวไหนก่อนหลัง ซึ่งการออกแบบของ OP เซทนี้ ขวันว่ามันเวิร์คมาก เพราะมีตัวเลขบอกไว้ที่ขวดเลยว่า ควรใช้ตัวไหนก่อนหลังค่ะ อย่างที่เห็นจะเป็นเบอร์ที่ซ้ำกัน ก็คือให้เลือกเอาว่าจะใช้ตัวไหนค่ะ 

และบรรจุภัณฑ์นี่ ขวันว่ามันก็ทำมาดีเลย ไม่ก๊องแก๊ง คุณภาพแพคเกจ สวนทางกับราคาหลักร้อยต้นๆไปเลย 

มาดูกันที่เบอร์ 1 ของเรากันเลยค่ะ ว่ามันคืออะไร ใช้รักษาอะไร

1. Anti Comedone Cream
245 บาท

ตัวนี้ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆคือ  ช่วยละลายความมันและสิ่งอุดตันทำให้สิวอุดตันแห้ง ร่นระยะผลัดเซลส์ผิว ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น

ด้วยตัวยาแบบละลายในน้ำมันได้ดี ทำให้ลงไปลึกในรูขุมขน สลายแบคทีเรียต้นเหตุสิวอักเสบ สลายไขมันส่วนเกินบนผิว ทำให้สิวอุดตันลดลง หน้าสะอาดขึ้น ตัวนี้ทาทิ้งไว้10- 15 นาที แล้วล้างออกค่ะ

*ระวังระคายเคือง*
ขั้นตอนต่อไปก็คือล้างหน้าค่ะ มี2แบบ



2. Deep Cleansing Gel / Crystal Clear Soap
215 บาท /  195 บาท  

 เวลาคนเป็นสิวเยอะๆ ปกติขวันจะแนะนำให้ใช้คลีนซิ่งเจล เพราะจะอ่อนโยนกว่าแบบโฟมที่ดึงเอาความชุ่มชื้นออกจากผิว และจะรู้สึกว่ามันสะอาดกว่าแบบครีม ตัวนี้ล้างแล้วหน้าไม่แห้งตึง ในส่วนของส่วนผสมรักษาสิว อยากให้ไปคาดหวังผล+เน้นการใช้ครีมบำรุง หรือเจลแต้มสิวมากกว่า 
เนื้อเจลมีฟองนิดๆให้พอรู้สึกสะอาดค่ะ หอมอ่อนๆจากส่วนผสมของธรรมชาติ

ส่วนใครมีผิวหน้ามันมากสิวที่หลัง หรือตามตัว แนะนำให้ใช้สบู่ก้อนค่ะ
ล้างหน้าเสร็จตามด้วยโทนเนอร์

3. Pore Tightening Toner
215 บาท

ขวันชอบที่เค้าออกแบบมาเป็นหัวสเปรย์นะ 5555 ดูใช้ง่ายดี ตัวนี้จะเน้นทำความสะอาดผิวอีกรอบ เพื่อขจัดคราบสกปรก+แบคทีเรีย+ความมันส่วนเกินบนผิว เพื่อเตรียมรับการบำรุงขั้นตอนต่อไป

ตัวนี้จะมีแอลกอฮอล์อ่อนๆ (Acohol denat) เพื่อใช้ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย จะเหมาะมากกับคนหน้ามันและเป็นสิว เพราะจะทำให้สิวเเห้งไว รูขุมขนดูกระชับขึ้นเล็กน้อยด้วย 

แต่ถ้าใครหน้าแห้ง จะบอกว่าแอลกอฮอล์เล้กน้อยที่ใส่มา ไม่น่าจะทำให้หน้าแห้งเพิ่มได้อยู่แล้ว
แต่ในกรณีที่แพ้แอลกอฮอล์จริงๆ ให้หลีกเลี่ยงค่ะ 


แห้งไวนะ เวลาเช็ดจะเย็นๆ ไม่ค่อยเคืองตามาก 

มาถึงขั้นตอนการบำรุงจริงๆเเล้ว


4. Clarifying Night Serum / Oil Control Moisturiser SPF 15
355 / 365 บาท


ตัว Clarifying Night Serum จะเน้นให้ความชุ่มชื้นผิว + ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย +ลดการอักเสบของสิวได้ดี
ส่วนตัวขวันใช้ทั้งตอนเช้าและกลางคืนนะ เพราะมันให้ความชุ่มชื้น และรู้สึกสะอาดกับผิวเป็นสิวดี จะรู้สึกหน้าเราไร้เชื้อสิว 555555555 เนื้อซึมไวไม่เหนอะหนะเลยค่ะ

ส่วนอีกตัวเป็นแบบเนื้อเจลครีม คุมมันได้ ปกป้องผิวจาก UV ให้ผิวไม่มันเงามาก แต่ส่วนตัวชอบให้หน้าฉ่ำๆให้ความชุ่มชื้นเยอะๆมากกว่า หรือถ้าใครจะเน้นเอามาคุมมัน เป็น primer ขั้นตอนสุดท้ายก่อนแต่งหน้าขวันว่าเวิร์คนะ
ถ้าใครอยากให้ประสิทธิภาพสูงสุดควรใช้ Day และ Night คู่กัน

และด้วยการที่เค้าใส่ spf มาแค่ 15 ซึ่งไม่น่าจะพออยู่แล้ว แนะนำให้ทากันแดดควบคู่ไปด้วยค่ะ
อ้อ ทาเเล้วหน้าจะสว่างขึ้นนิดนึงด้วยน้า ผิวจะลื่นๆดีค่ะ

 ปล. มี Silicone ค่ะ ใครอุดตันง่าย แนะนำให้ใช้สูตรเซรั่มมากกว่าสูตร Oil Control 

ใกล้ครบละ

มาถึงขั้นตอนแต้มสิวเฉพาะจุด

5. Anti Acne Spot Cream
265 บาท


ง่ายๆก็คือเอามาแต้มสิวอักเสบนี่เเหล่ะ ก็จะช่วยลดการอักเสบ ทำให้สิวยุบ และหนองแห้งไปเเบรนด์เค้าเคลมมาว่าช่วยให้สิวยุบตัวลงใน 48 ชม.
แนะนำให้ทาตอนกลางคืน เป็นขั้นตอนหลังการทาเซรั่มค่ะ ทาบางๆพอนะ
บางคนชอบทาหนาๆ มันจะยิ่งทำให้หน้าลอก การทาบางๆก็เพียงพอแล้ว


เป็นเนื้อครีมสีขาว เกลี่ยง่าย ซึมไว ติดผิวแน่นอยู่นะ 


สุดท้ายละค่ะ สำหรับสาวๆหนุ่มๆที่กังวลเรื่องของรอยสิว
หรือแม้กระทั่งสิวที่อักเสบอยู่ แล้วกลัวเห็นชัดเกินไป

6. Anti Acne Concealer
265 บาท 


จุดเด่นของตัวนี้คือการที่มันไม่ทำให้สิวอักเสบเพิ่มนี่เเหล่ะ ตัวนี้แบรนด์ก็เคลมอีกแล้วว่าช่วยให้สิวยุบลงด้วยทาลงไปบนสิวได้เลยสบายใจได้
ไม่ต้องกลัวว่าใช้แล้วสิวจะเห่อ (ยกเว้นแพ้อะนะ) ทาได้ทั้งสิวมีหัว สิวที่เป็นแผลอยู่

ทาเเต้มบางๆแล้วเอานิ้วกดๆ ก็สามารถแต่งหน้าทับได้

ข้อเสียอย่างเดียวที่นึกออกคือสีมันเข้มไปหน่อยสำหรับผิวขวัน นอกนั้นคือโอเคเลย 


จบแล้วเด้อออ

หวังว่าใครที่กำลังมองหาเซทดูแลผิวเป็นสิว ที่ใช้ส่วนผสมโอเค ราคาเบาๆ
แพคเกจจิ้งดี ก็แนะนำ OP เซทนี้เลยค่ะ เลือกตัวที่เหมาะกับผิวเรานะคะ

และก็อย่าลืมเทสต์ก่อนใช้ทุกครั้งน้า

หาซื้อได้ที่ OP ทุกสาขา และช้อปออนไลน์ค่ะ

บล๊อกนี้ขวันก็ลาไปก่อนน้า สวัสดีค่า

:D