วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2562

PHYTO NOVATHRIX แก้ผมร่วงทั้งวงจร ทุกสาเหตุ ตั้งแต่ทำเคมียันกรรมพันธุ์


กลับมาแล้วววว หลังจากไม่ได้มารีวิวในบล๊อกนานมากๆเลย
สวัสดีทุกคนอีกครั้งนะคะ :D

เวลากลับมาเขียนบล๊อก รู้สึกเหมือนกำลังเล่าเรื่องๆนึงให้ทุกคนฟังเลยอ่ะ
ไม่เหมือนกับการทำคอนเทนต์ในเฟสบุค อินสตาแกรมเลย

เอาเป็นว่าวันนี้เรามาเข้าเรื่อง "ผมร่วง" กันค่ะ

ผมร่วง ทุกคนน่าจะเคยเจอปัญหานี้กันบ้างแหล่ะ
อาจจะเกิดจาก ทำสีผม ดัดผม กัดสีมากไป เคมีบนหัวทำให้ผมร่วง
เครียด นอนน้อย แพ้อาหาร ก็พบได้บ่อย
เป็นโรคบางอย่าง กรรมพันธุ์ หรือ ตั้งครรภ์ ก็เป็นสาเหตุหลักผมร่วงในผู้หญิงทั่วโลกเลย

แต่แชมพูทั่วๆไป มักจะแก้ปัญหาได้แค่บางข้อ

เช่นส่วนใหญ่ก็จะแก้ได้เฉพาะ ผมร่วงที่เกิดจากการทำเคมี หรือหนังศีรษะมันเกินไป
ทำให้ไขมันอุดตันหนังศีรษะจนผมร่วง

แต่น้อยนะ ที่จะมีแชมพูหรือทรีทเมนต์ที่ทำเองได้ที่บ้าน
ใช้ได้ทุกวัน เพื่อแก้ปัญหาผมร่วงจากสาเหตุภายในอย่างกรรมพันธุ์ หรือ เครียด

และแชมพูที่ขวันกำลังจะรีวิวนี้
เค้าแก้ปัญหาผมร่วงได้ทุกสาเหตุที่ขวันพิมพ์มาเลยค่ะ นั่นคือ

PHYTONOVATHRIX

(ฟีโทโนวาทริกซ์)

ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ขวันได้มาประกอบด้วย แชมพู  และเซรั่มสำหรับผมร่วง1กล่องค่ะ

ความพิเศษของไลน์นี้คือ ทางฟีโท เคยมีผลิตภัณฑ์สำหรับผมร่วง ที่คิดค้นออกมาในปี 2016 แล้วขายดีมาก นั่นก็คือ Phytologist 15 ที่แก้ไขปัญหาผมร่วงทุกสาเหตุ 

จนต่อมาได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนปี 2019 ออกมาเป็นรุ่น NOVATRIX นี้เลย

ซึ่งรุ่นนี้ เป็นส่วนผสมธรรมชาติมากถึง 99% คือเยอะมากกกก

และยังทำงานลดผมร่วงอย่างครบวงจร
ตั้งแต่

ชะลอการร่วง >> กระตุ้นการเกิดผมใหม่>>เพิ่มความหนาแข็งแรงให้เส้นผม

 

อีกทั้งยังช่วยบำรุงหนังศีรษะให้แข็งแรง ทำให้เส้นผมเกาะยึดกับหนังศีรษะได้ดีขึ้น 
ผมจึงร่วงน้อยลง และผมเกิดใหม่เมื่อเกิดบนพื้นที่แข็งแรง ก็จะแข็งแรงและไม่หลุดร่วงง่ายอีกด้วย
คือครอบคุลม แก้ไขทุกปัญหา ทั้งปลายเหตุและต้นเหตุเลยค่ะ

โดยส่วนผสมธรรมชาติที่สำคัญคือ

Celery Seed Extract  ช่วยกระตุ้นการสร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อเส้นผม 

Baikal Skullcap Extract ยืดอายุเส้นผม ทำให้ผมร่วงช้าลง

Tulip Extract ช่วยให้เส้นผมยึดกับรากผมได้ ไม่หลุดร่วงง่าย

GloBularia Plant Stem Cells  เสริมสร้างเส้นใยผม ผมแข็งแรงสุขภาพดี 

มาดูรีวิวทีละตัวกันแบบไม่วิชาการกันเลยค่ะ
55555555555 ทุกคนน่าจะได้ข้อมูลครบถ้วนแล้ว
มาดูความรู้สึกล้วนๆจากขวันบ้าง

PHYTONOVATHRIX FORTIFYING ENERGIZING SHAMPOO

1,350 บาท 200ml

แชมพูเนื้อใส มีกลิ่นหอมอ่อนๆของสมุนไพรในสูตร เนื้อเค้าเหมือนจะฟองน้อยนะคะ แต่จริงๆฟองค่อนข้างเยอะ สระผมแล้วสนุกเลยค่ะ ถึงแม้ผมเราจะมันมากๆ เเต่แชมพูก็ยังก่อฟองได้ดีเลย(แต่ก็อาจจะไม่เยอะเท่าแชมพูทั่วๆไป)

ตอนสระ แนะนำให้เทแชมพูลงฝ่ามือ ถูให้เกิดฟองเล็กน้อย แล้วยีลงหนังศีรษะนะคะ อย่าสระที่เส้นผม
เพราะแชมพูตัวนี้เค้าเน้นทำงานที่หนังศีรษะ เราก็ต้องนวดลงหนังศีรษะ การที่เรามัวแต่ไปสระที่เส้นผม มันจะเปลืองเปล่าๆ 

ซึ่งพอเราสระที่หัวก่อน มันก็ไหลไปโดนปลายผมเราอยู่ดีค่ะ

ปกติขวันจะผม2 รอบนะคะ เพื่อความสะอาด หลังจากสระรอบ2จะยังไม่ล้างทันทีค่ะ
ขวันจะทิ้งไว้บนหัวประมาณ 2-3 นาที เพื่อให้ส่วนผสมในแชมพูซึมลงไปบำรุงก่อนค่ะ

ตอนล้างออกบอกเลยว่าตอนแรกคิดว่าผมจะต้องแห้งสากแน่นอน เพราะเป็นแชมพูเพื่อการรักษาอะเนาะ ไม่ใช่เพื่อความสวยงาม แต่ปรากฏว่าผมลื่นมากกกกกกกก

ลื่นไม่พอ ผมนุ่มด้วยนะคะ  น่าจะมาจากส่วนผสมของเค้าที่ช่วยบำรุงผมได้ดีเลยแหล่ะ

จุดนนี้ประทับใจมาก แชมพูล้างออกง่ายค่ะ ไม่ใช้เวลานานเลย 

ต่อไป

PHYTONOVATHRIX TREATMENT 

5,400 บาท กล่องละ 12  ขวด ใช้ได้นาน1 เดือน


ย้อนไปดูรูปแรกเพื่อดูกล่องภายนอกได้นะคะ 

อันนี้จะเป็นเหมือนเซรั่มสำหรับใส่ที่หนังศีรษะเลยค่ะ เวลาเราใช้ จะใช้หลังสระผม ตอนที่ผมหมาดๆ
1 หลอดต่อ 1 ครั้งค่ะ 



เค้าจะมี Applicator สำหรับช่วยบีบให้ใส่กับขวดเซรั่มด้วยนะคะ
เพื่อความสะดวกในการหยอดเซรั่มลงหนังศีรษะเรา

เมื่อเทียบกับมือแล้ว ขวดจิ๋วๆเลยค่ะ ตอนแรกขวันก็คิดว่า จะพอทั้งหัวเหรอ?
ขวดเล็กแค่นี้เอง?

แต่ผิดคาดค่ะ ใส่ตั้งนาน ยีทั่วหัวก็แล้ว ยังไม่หมดเลยอะ 5555555555 


เวลาที่เราหยอด เราก็จะบีบตรงหลอดเลยค่ะ เซรั่มก็จะออกมา มีกลิ่นสมุนไพรแปลกๆนิดหน่อย
แต่โอเคนะ ไม่ได้เหม็น แต่สำหรับขวันก็ไม่ได้หอมเท่าไหร่ 

ตัวนี้ไม่ต้องล้างออกนะคะ ทาแล้วเป่าผมให้แห้ง นอนได้เลย


ตอนที่เราหยอดเซรั่ม แนะนำให้ผมมือนวดหนังศีรษะสักพัก ให้เซรั่มซึมได้ดี และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดด้วยนะคะ 

เซรั่มนี้คือทีเด็ด และเป็น Must Have เลยค่ะ
เพราะเป็นตัวที่จะช่วยกอบกู้เส้นผมของเราได้ดีที่สุด
คือแชมพูจะอยู่บนหัวของเราแค่ชั่วคราว แล้วเราก็ล้างออกเนอะ
แต่เซรั่มจะอยู่บนหัวเราตลอดเลยค่ะ ซึมเข้าไปบำรุงหนังศีรษะเราอย่างเต็มที่เลย
เเนะนำมาก ถ้าใครผมร่วงมากๆให้ใช้คู่กันจะดีกว่าค่ะ

แพงหน่อยแต่ใช้ได้นานมากก
สำหรับคุณแม่ที่กำลังให้นมบุตรทางแบรนด์แจ้งว่า 
สามารถใช้แชมพูและเซรั่มตัวนี้ได้นะคะ 
ไม่มีส่วนผสมที่ส่งผลต่อการให้นมบุตรค่ะ แต่ถ้าแม่ๆท่านไหนไม่มั่นใจ 
แนะนำเอารายชื่อส่วนผสมไปปรึกษาคุณหมอก่อนก็ได้นะคะ

ผลการใช้



ขอบอกก่อนว่า ระยะหวังผลขึ้นอยู่กับว่าเราผมร่วงมากน้อยแค่ไหนด้วยนะคะ
ในวิจัยของทางแบรนด์คือให้ผู้ทดลองใช้ทั้งหมด 3 เดือน

ส่วนตัวขวันลองไปเกือบเดือนเลยค่ะ และมีอาการผมร่วงนิดหน่อย ไม่เยอะ
น่าจะมาจากหนังศีรษะมัน และนอนน้อย
เวลาผมร่วงเยอะ แฟนจะบ่นมากกก ว่าตามเก็บผมขวันทั้งวันก็ไม่หมด55555


สังเกตจากขวดเซรั่มที่หมดไป4ขวด
แรกๆก็ใช้ทีละขวดนะ หลังๆคือใช้ครั้งละครึ่งขวด ขวันก็รู้สึกว่ามันทั่วหัวขวันแล้วงะ

เลยจะบอกว่าสำหรับขวัน 1 กล่องน่าจะใช้ได้ถึง 2 เดือนเลย

แต่ในปริมาณที่เหมาะสมจริงๆควรใช้ครั้งละ 1 ขวดนะคะ 
สัปดาห์ละ 3 วัน 1 กล่องจะใช้ได้ 1 เดือนพอดีค่ะ

ส่วนแชมพูขวันก็ใช้ไปเกือบหมดเลยค่ะ ใช้ต่อครั้งไม่เยอะ
เพราะขวันจะสระผม 2 วันครั้ง ผมนุ่ม สลวยดีเลยค่ะ ไม่แห้ง ไม่ฟูเลย ชอบฟีลลิ่งตรงส่วนนี้มาก

แต่ข้อที่ขวันไม่ค่อยชอบก็มีนะ
คือพอเราใช้เซรั่มบำรุงหนังศีรษะ มันบำรุงหัวเราดีมากก แต่ก็ทำให้ผมเรามันเร็วกว่าปกติ
เพราะหนังศีรษะชุ่มชื้น สุขภาพดีมากกกก

จากปกติ 2-3 วันสระที 2 วันนี้ก็หัวมันแผล่บๆๆแล้วค่ะ
ไม่ไหว ต้องสระทุกวัน เว้นวันเลยบางที

ผลการรักษาผมร่วงก็ประมาณนี้เลยค่ะ

จริงๆ ตอนแรกก็ตกใจที่ผมร่วงน้อยลงขนาดนี้เหมือนกัน
แต่อย่างที่บอก ขวันควบคุมปัจจัยต่างๆไม่ได้ ไม่รู้ผมไหลลงท่อไปรึเปล่า
หรือมาร่วงตอนไดร์ผมอีกกี่เส้นไม่ได้นับ

ส่วนตัวรู้สึกผมร่วงติดมือน้อยลงค่ะ  และรู้สึกอยากใช้ต่อนะ คิดว่าถ้าใชัต่อน่าจะเห็นผลกว่านี้มาก
เซรั่มขวันยังไปไม่ถึงครึ่งกล่องเลย
 เพราะอย่างที่บอก มันแค่เดือนเดียวเองเนอะ ใจจริงอยากลองให้ถึง3 เดือนเลย
และส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาผมร่วงอะไรมาก คิดว่ามากกว่าคนปกติเล็กน้อยค่ะ

สรุป

แบรนด์ PHYTO เป็นแบรนด์ที่ขวันไว้ใจในคุณภาพมาก
มีอีกหลายรุ่นที่ขวันชอบใช้ และเห็นผลจริงจัง ถึงขนาดซื้อใช้ต่อเนื่องก็มี
อย่างตัว Ceanne ที่เคยใช้ตอนผมร่วงเพราะกัดสีเยอะก็เห็นผล

ตัวที่ใช้ตอนหัวมัน รุ่นสีเขียวก็ดีมากกก ผมมันน้อยลงมากกกก

ล่าสุดได้มีโอกาสลองก่อนหน้า Novathrix คือ Apaisante ก็ชอบ
เพราะช่วยทำให้ขวันคันหัวน้อยลงไปเยอะเลย โดยไม่ต้องพึ่งพา คีโตโคนาโซลเลย 5555


ก็ถ้าเกิดใครมีปัญหาผมร่วง และมีกำลังทรัพย์อยากลอง
แนะนำแบรนด์นี้เลยค่ะ  คุณภาพสูง ไว้ใจได้
สารสกัดดีมากเลยค่ะ

หาซื้อได้ที่พารากอน เอ็มโพเรี่ยม และทางออนไลน์ Line Official account ID : @Phytothailand

วันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

รีวิวกันแดด Lancome UV Expert Youth Shield ทุกสูตร!


 ช่วงนี้หน้าร้อน แดดก็แผดเผาเหลือเกิน
เชื่อว่าหลายคนก็อยากหากันแดดประสิทธิภาพดีมาทากันไม่ให้ผิวเราไหม้แดด
ริ้วรอย สีผิวเปลี่ยนกันเนาะ 

แต่สาวๆหลายคนคงไม่อยากคาดหวังแค่กันแดดใช่ไหมล่า?
ขวันเลยมาแนะนำกันแดดที่ทั้งประสิทธิภาพในการกันแดดสูง
และ
ยังทำให้ผิวสวยใสถูกใจคุณสาวๆหรือชายที่หลงรักการดูแลผิวตัวเองแน่ๆ

 วันนี้ขวันเลยมารีวิวนี่เลยจ้าา


กันแดด Lancome UV Expert ทุกสูตรเลยจ้าา คราวนี้กลับมาทวงบัลลังก์กันแดดประจำหน้าร้อนนี้เลย จุดเด่นคือกันแดดได้ดีมาก ครบทุกรังสี ไม่ต้องกลัวหน้าไหม้ ริ้วรอยถามหาแน่นอน แถมเนื้อบางเบาแต่มีจุดเด่นคนละสไตล์และมีเนื้อสัมผัสต่างกัน มาดูทีละสูตรกันเลย

 

Lancome UV Expert

youth shield

AQUA GEL

spf 50 pa ++++

 
Aqua Gel เป็นอีกสูตรที่ขวันชอบนะคะ เพราะเนื้อเค้าสบายผิวสุดๆเลย สำหรับคนอยากได้เนื้อน้ำเหลวมากๆ บางเบาสุดๆ ไม่รู้สึกหนักใดๆบนผิวเลย และทำให้หน้าไม่มันมากด้วย สามารถแต่งหน้าต่อโดยไม่กวนสีรองพื้น หรือทำให้สีผิวของเราเปลี่ยนไปจากเดิมค่ะ คุณผู้ชายที่ชอบอะไรธรรมชาติ ตัวนี้ก็ตอบโจทย์เลย




Lancome UV Expert

youth shield

BB Complete 2

spf 50 pa ++++ 

 

BB Complete สำหรับใครมีร่องรอยอารยธรรมเยอะ รอยแดงดำจากสิว ปกปิดได้กลางๆ ทำให้ผิวดูสวยเนียนขึ้น เซทแป้งฝุ่นทับคือพร้อมออกจากบ้านได้ เนื้อเค้าจะหนากว่าตัว Aqua Gel เล็กน้อย แต่ก็ยังไม่หนักผิวนะคะ ผู้ชายก็ยังสามารถใช้ได้ เพราะดูไม่ออกแน่นอนว่าเป็นกันแดดมีสี ไม่โป๊ะจ้า


Lancome UV Expert

youth shield

Milky Bright

spf 50 pa ++++

 

Milky Bright เนื้อน้ำนมนุ่มเนียน บางเบา เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ไม่อยากให้ปรุงแต่งเนื้อสีอะไรเยอะ ปรับสีผิวได้นิดหน่อย หน้าไบร์ทเล้กน้อย ไม่วอกไม่ลอย ทาง่าย ไม่ทำให้สีรองพื้นเปลี่ยนเลยค่ะ

  

Lancome UV Expert

youth shield

Tone Up Milk Pearly White

spf 50 pa ++++

 

 

Pearly White ใครอยากหน้าวาวแบบเกาหลีแต่ไม่อยากหน้าเปียก แนะนำสูตรนี้ จะช่วยกระจายแสง ทำให้หน้าดูมีมิติ ดูโกลวธรรมชาติ แต่ไม่ได้ปกปิดหรือเปลี่ยนสีผิวเรามากนะคะ ผิวจะดูฉ่ำเกาหลีแต่ไม่มัน ไม่เหนอะหนะค่ะ

 

Lancome UV Expert

youth shield

Tone Up Milk Rosy Bloom

spf 50 pa ++++ 

 

 


 Rosy Blooming สำหรับใครที่ผิวดูซีดเซียว อยากให้ผิวดูอมชมพูสุขภาพดี และดูสว่างขึ้นมานิดนึง ทำให้ผิวดูไม่ซีด และช่วยกระจายแสง ดูมีชีวิตชีวา ไม่เหนอะหนะ แต่ก็ไม่ได้แห้งหายไปนะคะ 

สามารถทาก่อนลงรองพื้นได้ ตัวนี้จะทำให้รองพื้นดูสดใสสว่างขึ้นเล็กน้อยค่ะ

 

 

เป็นยังไงกันบ้าง ตัดสินใจกันได้ไหมว่าชอบสูตรไหนกัน?

 

ส่วนตัวขวันชอบ Aqua Gel กับ BB Complete ค่ะ เพราะทาง่ายดี บางเบา ส่วนรุ่นบีบีก็เหมาะกับวันสบายๆที่ต้องเจอแดดแต่ก็ไม่อยากแต่งหน้าหนาๆ เซตแป้งฝุ่นทับก็สบายเลยค่ะ สูตรนี้ 

 

ทุกสูตรราคา 2,200 บาทนะคะ

หาซื้อกันได้แล้วที่เคาน์เตอร์ Lancome ทุกสาขาเลย

 

ขอบคุณคร้าบบบ

วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2562

REVIEW สุดยอดไพรเมอร์คุมมัน ลดรูขุมขนตัวใหม่จาก YSL Top Secrets Instant Matte Pore Refiner


วันนี้ขวันมีไพรเมอร์ตัวใหม่ที่น่าสนใจจาก
YSL ซึ่งเค้าเคลมว่านอกจากจะช่วยเบลอรูขุมขนและทำให้หน้ามันช้าลงแล้ว
ยังทำให้รูขุมขนดูเล็กลง เมื่อใช้ต่อเนื่องประมาณ1เดือนอีกด้วย

เพราะเค้าใส่ส่วนผสมอย่าง Salicylic Acid มาอ่อนๆด้วย 
ทำให้ลดการอุดตันของน้ำมันในรูขุมขนค่ะ

นั่นก็คือตัวนี้เลยยยย

Top Secrets Instant Matte Pore Refiner

และบอกเลยว่ายิ่งใช้คู่กับรองพื้นตัวเด็ด ยืนหนึ่งเรื่องติดทนคุมมันอย่าง All Hours แล้ว
ถือว่าเป็นคู่ที่เหมาะสำหรับอากาศร้อนๆ หน้ามันๆตอนนี้อย่างยิ่ง!

ซึ่งตัวรองพื้นคงไม่ต้องพูดเยอะ เพราะขนาดขวันทาไปว่ายน้ำ ยังไม่หลุดเลยจ้า

เอาเป็นว่าเรามาดูตัวไพรเมอร์กันเน้นๆเลยดีกว่า

ไพรเมอร์ขนาด 30ml ราคา 2,100 บาท

แพคเกจจิ้งสวยงามตามท้องเรื่อง สไตล์ YSL


โดยเค้าบอกว่าไพรเมอร์เป็นเนื้อครีมบางเบา พอได้ลองจริงก็เอออออ บางเบาจริงๆ
มันเหมือนเราทำสกินแคร์ที่ช่วยคุมมัน มากกว่าการทาไพรเมอร์หนาๆนะ

ในส่วนของกลิ่น ก็เป็นกลิ่นหอมกลิ่นเดียวกับตระกูล Top Secret เลย คือหอมหวาน ฟรุ้ตตี้แบบเซกซี่เล็กๆนะ 


ซึ่งไพรเมอร์ตัวนี้จะต่างจากที่ขวันเคยลองมานิดหน่อย เพราะเนื้อเค้าเหลว และรู้สึกเย็นๆผิวด้วย
และด้วยความเกลี่ยง่าย ลื่น ทำให้เราเกลี่ยไปได้ทั่วแก้ม โดยที่ไพรเมอร์ยังไม่เซทตัวเป็นก้อน

นึกฟีลไพรเมอร์เนื้อหนาๆที่แห้งไวไหม? ถ้าเราเกลี่ยไม่ไวจะเป็นคราบ

ตัวนี้เกลี่ยไปเลยย เพราะจะมีเวลาเซทตัวนิดนึง ก่อนที่จะแห้งกลายเป็นเนื้อแมทท์ แนบยึดติดกับผิว
โดยที่เรายังขยับหน้าได้แล้วยังสบายผิว เหมือนไม่มีอะไรเคลือบเท่าไหร่


ช่วงที่ได้เอามาลอง บอกเลยว่าเป็นการท้าทายไพรเมอร์มาก เพราะหน้าอ่อนแอจากประจำเดือนมา
ผิวแต่งหน้าไม่ค่อยติด มันกว่าปกติ และรูขุมขนกว้างด้วย

เอาซี้ 55555555 แต่ไพรเมอร์ก็ยังช่วยชีวิตขวันได้อยู่ จะเห็นว่าสีผิวสว่างขึ้น เนียนเรียบมากขึ้น
ความเงาบนผิวจากความมันดูแมทท์ขึ้น รูขุมขนก็ยังดูตื้นขึ้นด้วย

แต่มันก็ไม่เชิงว่าถมได้เต็มหมดนะ ส่วนตัวก็ยังไม่เคยเจอไพรเมอร์ตัวไหนถมรูขุมขนได้เต็มเลย



เเละเพื่อเป็นการพิสูจน์แบบจะจะไปเลย
หน้าฝั่งนึงทาไพรเมอร์ Top Secrets Instant Matte Pore Refiner อีกฝั่งขวันไม่ทาค่ะ

เเต่ทั้งสองฝั่งก็ทารองพื้นตัว All Hours เช่นเดียวกันนะคะ ขวันใช้สี BD20 ค่ะ


จะบอกว่าตอนลงรองพื้น ขวันกลัวว่าถ้าหน้าแมทท์มาก รองพื้นจะไม่ยึดเกาะกับผิว
ลองนึกถึงผิวที่ลื่นแห้งนะ รองพื้นมันจะไม่ค่อยเกาะผิว แต่ไพรเมอร์ตัวนี้ทำได้ดีเลย
คือยังทำให้รองพื้นเกลี่ยง่าย แต่ดูแนบสนิทกับผิวอยู่ ไม่ได้ดูแยกชั้นออกจากกันนะ ดูเนียนสม่ำเสมอกันไปเลย 

ค่อนข้างประทับใจจุดเล็กๆจุดนี้ ที่ไพรเมอร์ตัวนี้ทำได้ด้วย


อ่ะ หลังจากผ่านไป 5 ชั่วโมงค่ะคุณผู้โชมมมมมมมมม
แทบไม่ต้องอธิายเนอะ รูปมันคงบอกได้หมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

หน้าฝั่งที่ใช้Top Secrets Instant Matte Pore Refiner ยังดูแมทท์อยู่เลย แต่อีกฝั่งความมันเริ่มมาเยือนแล้วจ้า ผิวเริ่มเงาสะท้อนแสงแล้วนะ แต่ด้วยอานุภาพของ รองพื้น All Hours ทำให้ 5ชั่วโมง หน้ายังไม่เยิ้มเท่าไหร่ จากปกติถ้าขวันทารองพื้นตัวอื่น มันจะมีน้ำมันออกมามากกว่านี้นะคะ ยิ่งช่วงนี้ผิวไม่ค่อยดีด้วย ถือว่ารองพื้นก็ทำได้ดีเช่นเดียวกันนะ สำหรับด้านที่ไม่ได้ทาไพรเมอร์


ผ่านไปเกือบครึ่งวัน 11 ชั่วโมง
หน้าฝั่งที่ทา Top Secrets Instant Matte Pore Refiner มีความมันออกมาน้า
ถ้าไม่มีเลยคงจะกลัวอ่ะ 5555555 นี่ชั้นโบกอะไรไป ทำไมหน้ายังไม่มัน

เอาเป็นว่าหน้าก็มันแหละ แต่น้อยกว่าอีกข้างเยอะ

อีกข้างที่ไม่ได้ทา นอกจากผิวจะมันกว่าแล้ว ยังดูโทรมกว่าอีกข้างอย่างเห็นได้ชัด
ผิวดูเหนื่อย ดูอ่อนแรง ดูขรุขระไม่เรียบเนียน T T (ก็ต้องโทษผิวตัวเองช่วงนี้ด้วย)

ถ้ารูปนี้ยังดูไม่ชัดพอ

เราซูมให้ได้จ้าาา ไม่มีอะไรจะปกปิด 5555


ข้างขวาคือนอกจากจะมันกว่าแล้ว รูยังบานสะพรั่งกว่าอีกฝั่งที่ทา Top Secrets Instant Matte Pore Refiner มากจ้าา อย่าไปสนใจสิวประจำเดือนขวันเลยนะ ถือว่าขอ 555555555 

สรุป

การคุมมัน 9/10
ปิดรูขุมขน 7/10
ความแห้งตึง 3/10
เบาสบายผิว 9/10
ทำให้รองพื้นติดทนขึ้น 9/10 

คะแนนตามนี้เลยยยยย ความแห้งตึงนี่คือน้อยมาก สบายผิวเลยแหล่ะ



ถ้าถามความคุ้มค่าสำหรับ 3oml 2,100 บาท

สำหรับขวันมันน่าจะใช้ได้นานนนนนนมากกกกกกก คงจะหมดอายุก่อนเราใช้หมดด้วยซ้ำ
เพราะใช้ครั้งนึงไม่เยอะเลยค่ะ 

เราแต้มเฉพาะหน้าแก้มได้ หรือถ้าใครทาทั้งหน้า ขวันว่าก็ใช้ได้นานมากอยู่ดี
เพราะหลอดนี้ก็เท่ากับปริมาณรองพื้นขวดนึงเลยนะ 

ใครที่สนใจก็ไปหาซื้อกันได้แล้วจ้า
ที่เคาน์เตอร์ YSL 
หรือทางออนไลน์


ราคา 2,100 บาท 
ขนาด 30 ml 

วันนี้ก็มารีวิวเพียงเท่านี้จ้าาา

บ๊ายบายยยย :D 

วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

MizuMi เจลแต้มสิวเปปไทด์ยุบไวแบบซอง 49 บาท


ไม่น่าเชื่อว่าจากการที่เราเห็นแบรนด์
MizuMi มานานหลายปี จากกันแดด สู่ที่ล้างเครื่องสำอาง ไปน้ำตบ
จนวันนี้มี เจลแต้มสิวแบบซองแล้ว!

นี่เป็นครั้งเเรกเลยที่ขวันเห็นมิซูมิ ทำแบบซอง
ถ้ามิซูมิทำ ขวันเชื่อเลยว่าต้องดี อ่อนโยน เห็นผลแน่ๆ 


เเละหาซื้อง่ายมาก เพราะขวันเห็นมีขายที่ 7/11 แล้วเน้อ 49  บาทเท่านั้น


เป็นรูปตัวการ์ตูนสีฟ้าน่ารัก แต่ก็ไม่ได้ทำให้แบรนด์ดูเด็กน้อย หรือน่าใช้น้อยลงเลย


เจลเเต้มสิวนี้ เปิดแล้วเก็บไว้ใช้งานได้สบายมาก เพราะหัวเปิดปิดเค้าสามารถปิดได้แน่นสนิทดีมาก

เรามาดูเนื้อเจลแต้มสิวกันบ้าง 


เจลบางใสได้สารสกัดจาก
Oligopeptide-10 อะมิโนเปปไท์สกัดจากพืช ทำงานเลียนแบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรียสิว โดยสารตัวนี้จะช่วยลดการอักเสบได้อย่างดี ทางแบรนด์เคลมว่าสามารถลดการอักเสบของสิวได้ภายใน 24 ชั่วโมง และยังมีวิตามินบี 3 และสารสกัดจากชะเอมเทศ ที่ช่วยลดรอยดำจากแผลเป็นสิวและช่วยสมานแผลได้ดีด้วย

สูตรนี้ยังอ่อนโยน ไม่ทำร้ายผิว ปราศจากน้ำหอม 
น้ำมัน พาราเบน แอลกอฮอล์ และสีสังเคราะห์ด้วยค่ะ



เนื้อเจลนี้พอทาลงไปมันสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ค่อนข้างไว
และไม่ได้ทิ้งคราบบนผิวเลย เราสามารถแต่งหน้าได้โดยที่เมคอัพของเราไม่เป็นคราบและไม่หลุด 

มาดูผลลัพธ์การใช้ของขวันกันบ้างเนอะ

 วิธีการใช้ของขวันคือการเจาะเอาหนองออกนะคะ เเล้วโบกยาแต้มสิวลงไปหนาๆ และในวันเเรกพยายามทาซ้ำให้ได้ 2-3 รอบต่อวัน (ล้างหน้าสะอาด มือสะอาดก่อนน้า)

จะเห็นว่ามันลดการอักเสบได้ไวมากกกกกกก เพราะมันยุบลงไปค่อนข้างเยอะเลย เเละหลังจากการทาบ่อยๆ ติดต่อกัน 5 วัน จะเห็นว่าเนื้อผิวไม่ลอก ไม่แห้งเลย บริเวณสิวดูปกติดีมาก จะมีแค่รอยแดงจากการเป็นสิวที่ยังชัดอยู่ แต่คิดว่าน่าจะอีกซัก 2 อาทิตย์รอยแดงนี้น่าจะจางหายไป ส่วนนึงเพราะขวันเป็นคนผิวขาวและผิวบางมาก จึงเห็นรอยแดงได้ค่อนข้างชัดเลย 

สรุปคือเจลเเต้มสิวเปปไทด์ของ MizuMi นี้ใช้ได้ผลดีเลย ในการลดการอักเสบ บวม แดง แนะนำให้ทำควบคู่กับล้างหน้าให้สะอาด เเละถ้าเห็นว่ามีหนองควรเจาะออกจะหายไวน้า  และด้วยสูตรนี้
  จะช่วยให้ สิวขึ้นใหม่น้อยลง ด้วยสารสกัดจากสาหร่ายสีน้ำตาล ที่ช่วยยับยั้งการเติบโตของ P.Acne  และลดการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมันด้วยน้า

   อ่อนโยน ไม่ทำร้ายผิว ปราศจากน้ำหอม น้ำมัน พาราเบน แอลกอฮอล์ และสีสังเคราะห์

รวมๆ ขวันขอให้คะแนนเจลแต้มสิว MizuMi ตามนี้เลย
  • เนื้อสัมผัส 10/10
  • การลดอักเสบสิว 8/10
  • ความไวในการยุบของสิว 9/10
  • ความอ่อนโยน 10/10


ใครสนใจก็ไปหาซื้อได้แล้วที่ 7/11 ราคา 49 บาทน้าาา

บล็อคนี้ขวันก็ลาไปก่อนบ๊ายบาย