REVIEW เลนส์ตัดแสง พร้อมกันแดดได้ของ Hoya

สวัสดีค่าาา

วันนี้ไม่ได้มารีวิวเครื่องสำอาง หรือ สกินแคร์ใดๆเลย

เเต่จะมารีวิวแว่นตัดแสง ที่ขวันไปตัดมา

จะบอกว่าขวันเป็นคนที่ทำงานหน้าคอมนานมาก

ใช้ Social Madia ทุกรูปแบบ อยู่หน้าจอมือถือ มองมือถือมากกว่าหน้าแม่ หน้าแฟนอีก 

5555555555 

ด้วยความที่ทำงานตรงนี้ด้วย เลยเลี่ยงไม่ได้จริงๆที่จะต้องเอาตา มาเพ่ง จ้องแสงจ้าๆนานๆ

เคยมีพักนึงที่ขวันมองจอคอมไม่ได้เลย แสบตา เคืองตามาก จนไม่ไหวละ

เลยต้องไปหาแว่นตัดแสงมาใส่ 

แล้วรู้สึกว่า เออ มันดีจริงๆ การใส่แว่นตัดแสง มันทำให้เราสามารถใช้งานคอม มือถือ 

ได้สบายขึ้น

วันนี้เลยจะมารีวิวเลนส์ตัดแสง ที่สามารถกันรังสี UV ได้ด้วย

ของแบรนด์

Hoya 

ขวันเลือกกรอบแว่นเป็นของ Bolon ค่ะ เพราะชอบแบบ แค่นั้นเลย 555555

ราคาประมาณ 3,500 บาท น้ำหนักเบา ซื้อจากร้านแว่นทั่วไปนี่แหล่ะค่ะ

เเล้วขวันก็เอาไปตัดเลนส์ Hoya

โดยเลือกเลนส์ที่เป็น

Blue Control   เป็นการเคลือบเลนส์ทีช่วยป้องกันแสงสีน้ำเงินจากจอ LCD LED หรือจอ Digital ต่างๆ

อันนี้จะช่วยทำให้สบายตาขึ้นมากกกก

และเลือกที่เป็นแบบเปลี่ยนเป็นสีเข้ม เมื่อเจอรังสี UV

Sensity  เป็นการเคลือบเลนส์ ที่ทำให้เลนส์เปลี่ยนสีได้ ช่วยป้องกันรังสียูวีได้ 100% มี 3 สี

น้ำตาล เทา เขียว

ขวันเลือกสีน้ำตาลมาค่ะ

เวลาใส่ในบ้าน จ้องจอคอม มันจะไม่เปลี่ยนสีนะคะ จะเป็นแบบนี้

 

ใส่ตอนเล่นมือถือ เล่นคอม ปกติถ้าจ้องนานๆขวันจะแสบตา ปวดตา

เเต่พอใส่แว่นที่เป็นเลนส์ตัดแสง จะสบายตามาก ไม่ต้องเพ่งนานๆ

ปวดตาน้อยลง แสบตาน้อยลงค่ะ

ในเรื่องของผลระยะยาว แบบว่า ป้องกันการเป็นต้อ หรืออะไรต่างๆ ขวันยังไม่ทราบนะ 55555

เวลาเรามองผ่านเลนส์ เราจะเห็นเป็นสีเหลืองนิดๆนะคะ อย่าตกใจไป

อยากในรูปจะเห็นว่ามันออกเป็นสีชานิดๆ เวลามองผ่านเลนส์แว่นนะคะ ของจริงจะชัดกว่านี้

จอมือถือจะเห็นเป็นสีฟ้าเลยค่ะ 

อยากเห็นเวลาออกแดดเเล้วใช่มะ

เป็นงี้เลยยย

ความเข้มของสี จะขึ้นอยู่กับความแรงของแดดและ  UV ด้วยนะคะ ยิ่งแดดแรงจะยิ่งเข้มขึ้นค่ะ 

ใส่เจอแดด อาจจะได้ผลไม่เท่าแว่นกันแดดจริงๆ แต่กันรังสีได้เท่ากันนะคะ อาจจะมีหยีตาบ้าง

เเต่ไม่ปวดตาเลยค่ะ 

ถือว่าทำได้ดีเลย ไม่ต้องเปลี่ยนแว่นไปๆมาๆ เเต่ถ้าใครที่เจอแดดเน้นๆจริงๆ

ยังไงขวันก็แนะนำแว่นกันแดดจริงๆมากกว่าค่ะ มันกันแดดได้ดีกว่า (แต่กันรังสีได้เท่ากันจ้า)

นี่ถ่ายตอนนั่งเขียนบล๊อกให้ดูเลย จะเห็นว่ามันสะท้อนจอคอมเป็นจอสีฟ้าเลยค่ะ 

สำหรับใครที่สนใจ ก็สามารถนำกรอบแว่น หรือซื้อกรอบร้านแว่นแล้วตัดเลนส์ Hoya ได้ที่ร้านแว่นเลยน้า

สำหรับเลนส์ของขวันราคาประมาณ 1x,xxx บาทค่ะ จำราคาเป๊ะๆไม่ได้แล้ว

ขวันเลือกแบบฟูลออฟชั่น ราคาเลยจะสูง

เเต่จริงๆราคาประมาณ 2,000 บาทก็สามารถตัดได้แล้วนะคะ

สำหรับบล๊อกนี้ก็มีเพียงเท่านี้

หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะค้า

สวัสดีค่ะ

เจลล้างหน้า Tea Tree ลดสิวตัวดังจาก Thursday Plantation

หลายๆคนเห็นแบรนด์นี้น่าจะร้อง อ๋ออออ! เนอะ

คนที่เคยประสบปัญหาสิว ไม่ว่าจะสิวผด สิวอักเสบ น่าจะต้องเคยได้ลองบ้างแหล่ะ

เพราะมันดังมากกกกก ขวันได้ลองใช้ Tea Tree Oil แบรนด์ Thursday Plantation นี้เมื่อหลายปีก่อน

จะบอกว่ามันคือสุดยอดตัวแต้มสิวผดสำหรับขวันเลย สิวผดหายไวมากๆ

พอออยล์ใช้ดี ขวันก็มาใช้เจลแต้มสิวอีก ช่วยฆ่าเชื้อสิวอักเสบ และทำให้สิวอักเสบแห้งดีเลย

จุดเด่นอีกอย่างคือกลิ่น Tea Tree Oil ที่หอมมากกก ผ่อนคลายสุดๆ 

จากนั้นขวันก็ได้ลองโฟมล้างหน้า คือตอนนั้นแบรนด์นี้อะไรออกใหม่ ขวันสอยมาลองหมดเลย 5555 

แต่ที่จะมาพูดถึงจริงๆจังๆในบล๊อกนี้คือตัวที่ขวันเพิ่งได้ลองใช้ค่ะ

Thursday Plantation

TEA TREE DAILY FACE CLANSER 

ราคา 280 บาท (ขวดใหญ่มากกกกกกก)

ซึ่งแบรนด์นี้เค้าจะเน้นเอา Tea Tree oil เป็นส่วนผสมหลัก เพราะมีการวิจัยออกมาแล้วว่า

ที ทรี ออยล์เนี่ย สามารถช่วยลดปัญหาสิวได้ดีมาก เเละยังเป็นส่วนผสมจากธรรมชาติด้วย 

ซึ่งแบรนด์ Thursday Plantation เองก็ได้กำเนิดมาตั้งแต่ปี 2519 และเป็นแบรนด์แรกเลยที่เอา ที ทรี ออยล์ออกมาทำเป็นผลิภัณฑ์รักษาสิว จนเป็นที่นิยิมกันต่อๆมา 

ซึ่งหลักๆ คลีนเซอร์ตัวนี้ ได้ทำออกมาเพื่อผิวเป็นสิว ที่มีสภาพผิวผสม - มัน 

สามารถใช้ได้ทุกวัน เช้า- เย็น โดยไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองน้า 

ปราศจากสาร SLS และ พาราเบน

มีส่วนผสมหลักๆอย่าง Tea Tree Oil ที่ช่วยฆ่าเชื้อสิว 

และ Chamomile ที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิว

ส่วนประกอบอื่นๆตามนี้เลยค่ะ ไม่มีแอลกอฮอล์ด้วยน้า ผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้เลยค่ะ 

เนื้อเจลจะค่อนข้างเหลวนะคะ มีกลิ่นหอม  Tea Tree อ่อนๆ ไม่แรงเท่าตัว Oil และเจลแต้มสิว

มาดูกันว่าตอนผสมน้ำ แล้วจะมีฟองประมาณไหน 

จะบอกว่าฟองมีประมาณนึงเลยค่ะ เนื่องจากเค้าไม่ได้ผสมสาร SLS ที่ทำให้เกิดฟอง (ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคือง) ถูๆกับน้ำสักพักจะมีฟองเล็กๆเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นตอนล้าง ใครที่ชอบแบบมีฟองนิดๆ

น่าจะเลิ้ฟเลยค่ะ เพราะขวันก็ชอบฟองประมาณนี้เหมือนกัน มันล้างง่าย 

ความรู้สึกตอนล้าง

ตอนแรกคิดว่าจะแสบตา เพราะปกติตัวเจลกับออยล์ มันระเหยเข้าตาเเละจะแสบตานิดๆ แต่ตัวนี้ไม่แสบตาเลย กลิ่นหอมอ่อนๆรู้สึกดี ไม่ได้ล้างแล้วผิวรู้สึกเอี๊ยดๆเลยนะคะ ตอนล้างก็ออกง่ายมาก 

ผิวไม่แห้งตึง ไม่เอี๊ยด แต่ก็ไม่ได้รู้สึกชุ่มชื้นมาก แค่ผิวไม่แห้งค่ะ ถือว่าโอเคเลย สำหรับฟีลหลังล้างเสร็จ

ซับหน้าให้แห้ง ก็ไม่พบว่าผิวแห้งตึงใดๆ ให้ผ่านเลย เพราะปกติเจลล้างหน้าฆ่าเชื้อสิวได้

จะทำให้หน้าเเห้งนะคะ ส่วนใหญ่ แต่ตัวนี้ไม่เลย ชอบๆ 

9/10 หัก 1คะแนน เพราะไม่ได้ชุ่มชื้นมากเท่าที่คาดหวังไว้

แต่ก็ไม่ทำให้หน้าเเห้งตึง 

 นี่คือผิวขวันหลังล้างเสร็จใหม่ๆเลยค่ะ ความมันหายไปแบบปลิดทิ้งเลย

ผิวดูโอเค ไม่ได้ดูชุ่มชื้นมาก แต่ก็ไม่แห้งน้า 

หลังจากนั้น ถ้าใครมีสิวมีหัว แนะนำให้แต้มตัวนี้เลยค่า เป็นเจลแต้มสิวน้า

หรือถ้าใครเป็นสิวผด ขวันแนะนำแบบออยล์เลย สิวผดหายไวมากๆ

เราสามารถนำไปผสมน้ำให้เจือจาง มาล้างแผล อาบตัวลดกลิ่นตัว 

หรือแม้กระทั่งล้างแผล ผดผื่นจากแมลงกัดได้ด้วยนะคะ คุณประโยชน์ของออยล์ตัวนี้ดีมากๆ

อย่าแต้มเยอะเกินไปนะคะ สำหรับตัวออยล์ ให้ใช้คอตต้อนบัต เอามาแต้มบริเวณเล็กๆ บนสิวพอน้า 

เพราะมันเข้มข้นมากๆค่ะ 

สำหรับใครที่สนใจสามารถหาซื้อ

Thursday Plantation ได้ที่

วันนี้ขวันก็ลาไปก่อนน้าา

บ๊ายบายค่า

:D 

แคปซูลทาผิวกระชับรูขุมขน ราคาหลักร้อย คุณภาพหลักพัน จาก Smooth E

สวัสดีค่าทุกคน

ขวันเชื่อว่าทุกคนคงเคยได้ยิน หรือเคยเห็นกันมาบ้างแล้วเนอะ

สำหรับสกินแคร์ในรูปของแคปซูล

อารมณ์เหมือนว่าจะเอาไว้กิน

แต่จริงๆแล้วเอาไว้ทาผิว

ซึ่งสกินแคร์ในรูปแบบแคปซูลนี้จะเข้มข้นเป็นพิเศษ

และอัดแน่นด้วยส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพ เน้นใช้ไม่เยอะ แต่เห็นผลไว

วันนี้ขวันเลยมาแนะนำของอีก 1 ยี่ห้อ ที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี

Smooth E

Face Lift External Capsules  

จำนวน 12 เม็ด ราคา 325 บาท

เซรั่มเข้มข้น บริสุทธิ์ 100% ในรูปแบบแคปซูลจาก สมูธอี ที่เคลมว่าช่วยยกกระชับผิว และทำให้รูขุมขนดูแคบลงได้ด้วย Made in USA

สารสกัดธรรมชาติที่คัดมาพิเศษถึง 12 ชนิด  ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ

ทำให้ผิวที่ร่วงโรยกลับมาดูเปล่งปลั่งมากขึ้น

ด้วยส่วนผสมหลักๆอย่าง

Grape Seed Oil

อุดมด้วย vitamin A, E และ Silicon มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูโครงสร้างคอลลาเจนของผิว ปรับสภาพสีผิวให้กระจ่างใส

Aloe Vera Extract

อุดม Proteolytic enzyme ที่ช่วยในการขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ พร้อมกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่

Apricot Kernel Extract

อุดมด้วย EPA (Essential fatty acid), Vitamin A และ

Ginkgo Biloba extract

กระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและอ็อกซิเจน ในเซลล์เนื้อเยื่อผิว ทำให้ผิวกระชับแข็งแรง

St.John’s wort extract

กระชับรูขุมขน ให้ผิวเรียบเนียน

Chamomile oil

มี Amino acid ซึ่งช่วยเสริมสร้างโปรตีนที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของผิว ทำให้ผิวแข็งแรง

Squalene (Fitoderm)

สารสกัดจากตับปลาทะเลน้ำลึก ซึ่งมีสารอาหารคล้ายกับสารในต่อม sebum ในผิวมนุษย์ ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย และจุดด่างดำ

ซึ่ง อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงเห็นว่ามีพวกน้ำมันสกัดเยอะ มันจะเหนอะหนะไหม?

จะอุดตันไหม?

เดี๋ยวรออ่านไปเรื่อยๆน้า เดี๋ยวเฉลยไว้เลย

เม็ดนึงใหญ่อยู่นะคะทุกคน ขวันต้องแบ่งใช้ 2 ครั้งเลย เพราะถ้าใช้หมดในครั้งเดียวมันเปลือง 555555

รูปร่างเหมือนขนมอบชีสเลย ที่เป็นรูปปลา นิ่มๆ น่าเล่นมาก

วิธีเปิดใช้ที่ง่ายที่สุดคือบิดบริเวณหางปลาค่ะ มันจะขาด แล้วเซรั่มเข้มข้นจะไหลๆออกมา ให้รีบทานะคะ

หรือถ้าใครกลัวว่ามันจะหกเลอะเทอะ วิธีเอาเข็มเจาะก็เวิร์คเหมือนกันค่ะ แต่ขอให้เป็นเข็มที่สะอาดนะคะ

ขวันใช้วิธีบีบๆมันให้ออกมาแบบนี้เลย แล้วค่อยนวดค่ะ วิธีนวดให้ผิวกระชับจะมีบอกด้านล่างนะคะ

เพราะขวันลองเอาเทลงมือแล้วมันระเหยเร็วไป เลยทาลงหน้าเลยค่ะ

เซรั่มเหลวมาก ใสมาก เหมือนน้ำเลย ต้องรีบเกลี่ยค่ะ นวดง่าย ไม่หนืดเลย ลื่นมากๆ

ให้ความรู้สึกมันๆเล็กน้อย แต่พอนวดซักพักมันจะซึมหายไปอย่างรวดเร็ว

เบาสบายผิว ไม่รู้สึกว่ามีอะไรอยู่บนผิวเลยค่ะ

ดูจากรูป จากผิวกร้านๆ ดูฉ่ำขึ้นมาเลยค่ะ

มาดูกันว่ามันซึมไวจริงไหม ขวันได้นวดไปให้มันซึมแล้วนะคะ

จึงได้เอากกระดาษซัมมันมาลองกดลงไปดู

ผลลัพธ์นะเหรอ?

แท่เด้มมมมมม จะเห็นว่ามันไม่มีความมันออกมาเลย มีนิดเดียวเอง น้อยกว่าตอนซับหน้ามันระหว่างวันอีกค่ะ

เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเลยนะคะ ว่าหน้าเราจะรู้สึกเหนอะหนะ ไม่สบายผิว หรือมันแผล่บๆ

เพราะมันซึมไว หายไปเลย

คะแนนตรงนี้ขวันให้ 10/10 ไปเลยอ่ะ สบายผิวมาก ผิวมัน ผิวเเห้งก็สามารถใช้ได้เลย

ทีนี้ มาถึงท่านวด สำหรับใครที่อยากยกกระชับผิว

ขวันมีท่านวดนิดๆหน่อยๆมานำเสนอค่ะ

ท่าที่ 1 หน้าผาก

นวดขึ้นเบาๆจากเหนือคิ้ว ขึ้นด้านบนช้าๆ

ท่าที่ 2 ข้างจมูก

แต้มเซรั่มบริเวณข้างจมูก ใช้ปลายนิ้วกดๆนวดๆ ไล่ขึ้นไปถึงบริเวณเบ้าตา

ท่าที่ 3 แก้ม

แต้มบริเวณโหนกแก้ม แล้วนวดออกไปที่ขมับทั้ง 2 ข้างค่ะ

ท่าที่ 4 คาง

แต้มเซรั่มที่กลางคาง แล้วนวดออกไปตามบริเวณกรามทั้ง2ข้าง

ท่าที่ 5 คอ 

ท่าสุดท้าย แต้มบริเวณคอ แล้วนวดสลับขึ้นลงค่ะ เพื่อลดเหนียงได้ด้วยนะ ท่านี้

ทำแบบนี้ตอนเช้าหรือก่อนนอนก็ได้นะคะ ส่วนตัวขวันว่าตอนเช้าเวิร์คกว่า เพราะมันเหมือนกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณหน้าได้ดี แต่ถ้าใครรีบๆตอนเช้า ก็สามารถทำก่อนนอนก็ได้เหมือนกัน

สรุป

ในเรื่องของผลลัพธ์ ขวันรู้สึกผิวเต่งตึงขึ้น ผิวดูแน่น อิ่มน้ำดี แต่ในเรื่องของการกระชับผิว ล่าสุดใช้ไปเกือบหมดแล้ว ยังไม่ค่อยเห็นผลชัดมากนัก เหมือนต้องอาศัยการนวดอย่างสม่ำเสมอควบคู่ไปด้วย

และในส่วนของรูขุมขน ก็รู้สึกได้ว่ารูขุมขนดูเล็กลง แต่ก็ไม่ได้หายไปนะคะ ถือว่าในส่วนของผลการใช้

ขวันให้ 8/10 ค่ะ

ในเรื่องของเนื้อสัมผัส อย่างที่บอกคือให้ 10/10 เลย ชอบมาก มันเข้มข้นมาก แต่มันกลับ

ไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะ หรือรู้สึกมันๆหนักๆบนผิวเลย ชอบมาก

ก็ถ้าใครสนใจก็สามารถหาซื้อได้แล้วนะคะ มีวางจำหน่ายแล้วที่ร้านขายยา,Boots,Eve&boy,Tesco Lotus,The mall

ในราคา 325 บาท ใน 1 กล่องมี 12 เม็ด

วันนี้ขวันก็ลาไปก่อนน้า

บ๊ายบายค่า

DR.WU สกินแคร์ดังจากไต้หวัน มาไทยแล้ว แนะนำสิ่งที่ควรซื้อตาม

สวัสดีค่ะทุกคน

หลายๆคนน่าจะเคยได้ยินมาบ้าง หรือไม่เคยเลย

สำหรับใครที่ไปไต้หวัน ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าแบรนด์ Drugstore ที่ขวันกำลังจะพูดถึงนี้

ขายดิบขายดีมากกกกกกจริงๆ

แบบเดินไปทางไหนก็จะต้องเจอร้านขายแบรนด์นี้ บูธเล็ก บูธใหญ่

ห้างเล็กห้างใหญ่ ไปที่ไหนก็ต้องเจอ

บอกตามตรงตอนแรกค่อนข้างจะไม่เชื่อ ว่ามันจะขายดี มีทั่วไปขนาดนั้นเลยเหรอ

(Watson ที่ไต้หวัน สังเกตเห็นป้ายแดงๆของแบรนด์นี้ไหม? ทั้งหน้าร้าน และบริเวณชั้น3)

แต่หลังจากที่ได้ไปร่วมทริปกับแบรนด์ที่ไต้หวันครั้งนั้น

บอกเลยว่าเค้าไม่ได้โกหกจริงๆ คือมีทุกที่! 

 บูธนี้ถือว่าเล็กนะคะ 555555 กินพื้นที่ไปทั้งมุมตึกเลย

นอกวัตสัน ก็ยังมี ตามร้าน Drugstore อื่นๆ สังเกตว่า Shelf ใหญ่มากนะ

แบรนด์ที่ขวันพูดถึงก็คือ

DR.WU

ซึ่งเค้ามาขายในไทยแล้วน้าาาา ดีใจแทนทุกคนที่รอจริงๆ

แล้วก็บอกเลยว่า ถ้าใครได้ลอง หรือได้อ่านประวัติความเป็นมาของแบรนด์นี้ รับรองว่า 100 ทั้ง 100

จะต้องอยากใช้!  

เริ่มแรกเนี่ย DR.WU เค้ามีคลินิกรักษาผิวของเค้าเองค่ะ มีสาขาอยู่ทั่วไต้หวัน

และอีกทั้งตัว DR.WU เองยังเป็นนายกสมาคมเลเซอร์ผิวหนังที่ไต้หวันด้วย

เรียกได้ว่า ไม่มีใครไม่รู้จักเค้า

เดิมทีสกินแคร์ต่างๆ จะถูกใช้ในคลินิกของเค้าเอง เพื่อใช้รักษาผิวหน้าของผู้ป่วย

หรือใช้หลังการทำเลเซอร์ จนลูกค้าทุกคนก็ชอบมากๆ

ลูกชายของ DR.WU คือ Eric Wu ก็ได้เกิดไอเดีย

ให้เอาสกินแคร์ของพ่อเค้ามาขายใน Drugstore ซะเลย

ไม่ต้องบอกว่าขายดีขนาดไหน

ขายดีขนาดที่ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ของที่ไต้หวันเลย

คือเขาขายดีมากกกกกกก

ด้วยเหตุลที่ Eric Wu บอกว่า เค้าได้ผสมผสานส่วนผสมจากธรรมชาติ และส่วนผสมทางเคมี(ที่ไม่อันตราย) ที่เห็นผลจริง ไม่จกตา และออกฤทธิ์เร็ว มาใช้เป็นส่วนผสมหลัก

ซึ่งส่วนผสมแต่ละตัวก็แพงๆทั้งนั้น แต่เค้าก็สามารถทำออกมาขายตีตลาดคู่แข่งในราคากลางๆได้

 ดูภาพจากสไลด์ได้เลยว่า เคาน์เตอร์ในห้าง อลังการงานสร้างแค่ไหน

สาบานว่านี่คือสกินแคร์ราคากลางๆนะคะ ร้อยนิดๆ - พันต้นๆ

และด้วยไลน์ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์ปัญหาผิวอย่างครอบคลุม

ก็ทำให้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะใช้ดีด้วย หลากหลายด้วย

แถมยังได้รางวัลต่างๆอีกเยอะแยะมากมาย

ดูเอาเองละกันน้า ข้อมูลนี้ขวันไม่ได้พูดลอยๆนะคะ พิสูจน์ได้จริงๆเลย

ขวันได้ไปร่วมงานเปิดตัวสกินแคร์ไลน์ใหม่อย่างไลน์ Mandelic Acid

ได้เจอ DR.WU ที่มีอายุปาไปถึง 70 แล้ว แต่ผิวหน้ายังดีม๊ากก ดูอายุไม่ถึงเลยด้วยค่ะ อารมณ์ดีมากๆ

และ หลังจากที่ได้กลับมาลองใช้เซ็ตล่าสุดจากแบรนด์นี้อย่างจริงจัง

นอกจากขวันจะชอบมาส์กมากกกกแล้ว

ถึงขนาดที่เค้าให้มันไม่พอ ตอนนั้นกลับไทยไปก็หาซื้อไม่ได้ เลยไปซื้อแพคใหญ่มาตุนไว้

บอกเลยว่า ตอนนี้ DR.WU มาไทยแล้ว ทุกคนควรลองมาส์ก!

อีกเซ็ตที่ขวันได้มาลองใช้จริงจังเป็นเวลาเกือบ2เดือนคือ เซ็ตนี้ค่ะ

 

DR.WU

                                                                       

Mandelic Renewal System

                                                             

หลักการคือ

ผลัดเซลล์ลึกถึงชั้นผิว กระตุ้นรอบการเกิดผิวใหม่ คืนความกระจ่างใส โดยไม่ทําให้ผิวบางลง

                                                           

           

จะเรียกว่าไลน์ Mandelic แล้วกันนะคะ สีแดงทำให้จำง่าย เวลาใช้เป็นเซ็ต

หลายๆคนมีปัญหา ผิวหน้าขรุขระ ไม่เนียบ เป็นผื่นสากๆ เป็นสิว หน้าหมองคล้ำ

เป็นเพราะผิวของเรามีกระบวนการผลัดผิวที่ไม่สมดุล      

                                                                       

ปกติผิวหน้าเราจะค่อยๆผลัดทุก 28 วัน การใช้เซ็ตนี้จะช่วยร่นระยะเวลาให้เร็วขึ้นอย่างอ่อนโยน

                                                           

และการที่เราจะหน้าใสไร้สิวได้เร็วที่สุด คือการผลัดเซลล์ผิวนะ หลายๆคนยังไม่รู้

ส่วนใหญ่ในสกินแคร์รักษาสิว ทุกคนจะคุ้นเคยกับพวก

Salicylic Acid Aha Bha ต่างๆเนอะ ที่ช่วยรักษาสิว

แต่ DR.WU นี้มีความแตกต่าง เค้าเลือกที่จะใช้ส่วนผสมหลักธรรมชาติ

ที่ได้ผลดีกว่าพวกนั้นหลายเท่า และปลอดภัย ระคายเคืองน้อยกว่าอย่าง

Mandelic Acid

คืออะไร?

Mandelic Acid คือ AHA ชนิดนึง สกัดมาจากอัลมอนต์ ซึ่งมีคุณสมบัติเร่งการผลัดผิวชั้นนอก ให้หลุดอย่างรวดเร็ว

แต่ไม่ระคายเคืองเท่า AHA อื่นๆ ได้รับการยอมรับว่าอ่อนโยนที่สุด และทรงประสิทธิภาพที่สุด  

อีกทั้งยังช่วยลดการผลิตน้ำมัน ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวอักเสบ และกระชับรูขุมขนได้ด้วย

โดยรวมเซ็ตนี้จะใช้เทคโนโลยี

MA3PEEL

                                                                                                                       

ควบคุมการผลัดเซลล์ผิวเก่า + ทำความสะอาดรูขุมขน + ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส

เอาล่ะค่ะ เอาเป็นว่าทุกคนเข้าใจคร่าวๆแล้วเนอะ

เพราะส่วนผสมส่วนใหญ่ในไลน์นี้จะคล้ายๆกันค่ะ

ต่างกันแค่บางส่วน และหน้าที่ต่างกันเฉยๆ

มาดูกันที่ตัวเด็ดที่ขวันชอบที่สุดก่อนเลย

                                                           

INTENSIVE RENEWAL SERUM WITH MANDELIC ACID 18%

และสูตรปกติ

                                               

 หน้าตาเหมือนแฝดกันขนาดนี้ จริงๆมันก็เกือบจะแฝดหล่ะค่ะ

ต่างกันแค่ % ความเข้มข้น ที่ขวดทางขวาจะเข้มข้นที่ 18% และซ้ายมือจะเป็นสูตรปกติ

วิธีใช้สูตรปกติ = ใช้ได้ทุกวัน ตอนกลางคืน ทั่วหน้า หรือบางจุด

วิธีใช้สูตรเข้มข้น 18% = ใช้อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง หรือใช้วันเว้นวัน ก่อนนอนเท่านั้น แต้มบางๆทั่วหน้า หรือบางจุด

ซึ่งสูตร 18% จะมีประสิทธิภาพกว่าในปริมาณเท่าๆกับตัวสูตรปกติค่ะ

เพราะอะไรถึงต้อง 18% ?

                                                           

พิสูจน์มาแล้วทางการแพทย์ว่าที่ความเข้มข้น 18% Mandelic acid จะสามารถซึมลงสู่ ใต้ผิวหนังได้ 100%ทำให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด

                                                           

ความเข้มข้น 18% จะไม่กระตุ้นผิวหน้ามากเกินไป ไม่ต้องกังวลเรื่องระคายเคือง

                       

ทั้ง 2 สูตร ลักษณะจะเป็นน้ำใสๆ ไม่ค่อยมีกลิ่น ไม่มีสี ซึมได้ง่าย ไม่เหนอะหนะค่ะ

ตัวนี้คือเอามาแต้มสิวเริ่ดมากกก เพราะมันทำให้แห้งเร็วมาก

ส่วนตัวตอนแรกใช้อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง เห็นผลดีมาก หน้ามันน้อยลง อุดตันน้อยลงมากกกก

แบบโคตรประทับใจ

แต่มีช่วงนึงขวันอยากลองใช้ทุกวัน ใช้ค่อนข้างเยอะไปหน่อย หน้าลอกเลย55555555

คือทุกคนอย่าทำตามขวันนะ มันไม่ดี มันทำให้หน้าลอก ถ้าใช้มากเกินเหตุ

สรุปคือมันคือ The Best ในเซ็ตนี้เลยค่ะ และตัวนี้ยังเป็น Best Seller ด้วย

10/10 ไปเลย

_____________________________________

                                             

           

Renewal Cleansing Mousse With Mandelic Acid

 โฟมล้างหน้า ที่มีส่วนผสมของ Mandelic Acid และเทคโนโลยี Nano-Bubble ปลอดสารสบู่ ไม่ระคายเคืองกับผิวหน้า ล้างหน้าได้สะอาด แต่ไม่แห้งตึงเลย ชอบมาก โฟมละเอียด ปั๊มทีละ 2 ปั๊มก็พอทั่วหน้า

สังเกตว่าขวันทำฝาหายไปแล้ว เป็นคนชอบทำฝาหายค่ะ เวลาใช้อะไรจริงๆจังๆ 5555555

ตัวนี้ขวันชอบมากเหมือนกัน เพราะใช้แล้วไม่ระคายเคือง ล้างได้สะอาดดี

10/10 ค่ะ

_____________________________________

         

                                   

DAILY RENEWAL ESSENCE WITH MANDELIC ACID

ตัวนี้จะเป็น Essence ค่ะ หลักการทำงานของตัวนี้ก็ช่วยในการปรับสภาพผิวให้ยืดหยุ่น ชุ่มชื้น

และผลัดเซลส์ผิวไปในตัว จริงๆขั้นตอนนี้ขวันค่อนข้างขี้เกียจใช้ 555555

ยอมรับสารภาพแต่โดยดี (สังเกตว่าฝายังอยู่ 55555)

ส่วนตัวยังไม่ค่อยเห็นผลอะไรจากตัวนี้ เพราะไม่ค่อยได้ใช้

พอกลับมาอ่านรายละเอียด คุณสมบัติอีกที ก็อยากกลับมาใช้อีก เดี๋ยวมาอัพเดตแล้วกันนะคะ

แต่โดยรวมคือใช้ง่าย ไม่แพ้ เหมือนน้ำใสๆเลย ตัวนี้เป็น Essence นะคะ สามารถใช้ทาหน้าได้เลยค่า

_____________________________________

                                               

              

                                 

POST-RECOVERY MOISTURIZER WITH TRI-CERAMIDES

                                               

      

ตัวนี้จะเน้นฟื้นฟูผิว ให้ผิวชุ่มชื้น

                                                           

ด้วย Tri-ceramides X Soline formula สร้างเกราะป้องกันผิว รักษาสมดุลย์ผิว ไม่ให้แห้ง ไม่ให้มันไป

                                                           

เสริมสร้างความสามารถ ซ่อมแซมตัวเองตามธรรมชาติ

           

Soline, Tinocare GL, Pentavitin และ Vitamin B Complex ช่วยปลอบประโลมผิวที่อักเสบจากสิว จากการระคายเคืองต่างๆ

โดยรวมเนื้อมันยืดหยุ่นดีมากค่ะ นิ่ม เกลี่ยง่าย และซึมไว

ไม่ทิ้งความเหนอะหนะบนผิว ขณะเดียวกันผิวก็รู้สึกนุ่ม ไม่แห้งด้วย ชอบมากตัวนี้

ขวันให้ 9/10 เลย หักเรื่องยังไม่เห็นผลเรื่องริ้วรอย แต่โดยรวมลดการอักเสบ ปลอบประโลมผิวได้ดี

วิธีเรียงลำดับการใช้ค่ะ เผื่อใครงงๆ

 _____________________________________

                       

           

  

สุดท้ายนี้ถ้าใครคิดไม่ออกว่าจะซื้อตัวไหนมาลองดี ขวันก็แนะนำตัวที่ถือเลย

INTENSIVE RENEWAL SERUM WITH MANDELIC ACID 18%

มันดีงามมาก ถ้าใช้ถูกต้องน้า ไปลองๆ

ส่วนอีกตัวที่คิดว่าควรมี ควรซื้อ

 

คือแผ่นมาส์กหน้าค่ะ ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นดีมากกกกกกกก

แบบตอนนั้นข้างจมูกขวันเเห้งมาก แสบมาก ได้ตัวนี้แหล่ะมาช่วยไว้

ใครที่สนใจก็สามารถไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้แล้วนะคะ

DR.WU มาขายที่ไทยแล้วน้า สามารถหาซื้อได้

ที่วัตสันทั้งหมด 28 สาขา ตามด้านล่างนี้เลยน้า

ไปหาซื้อกันได้เลยเน้อ

ราคาก็มีหลากหลาย ราคาจะเป็นราคากลางๆค่ะ

ส่วนนี่  www.facebook.com/drwu.Thailand คอยติดตามข่าวสารกันได้เลย

  ส่วนใครที่อดใจรอไม่ไหว สามารถสั่งซื้อได้ที่นี่ เว็บไซด์ www.drwuthailand.com

และ Line @ id : drwuthailand

 หรือคลิกตามลิงค์นี้ http://bit.ly/drwuthailand-line ได้เลยค่ะ

วันนี้ก็หมดแค่นี้น้า ใครสงสัยวิธีใช้อย่างไร สอบถามขวันได้

หรือ inbox ไปที่เพจได้เลยค่ะ