วันพฤหัสบดีที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2560

5 เครื่องสำอาง CANMAKE VS เคาน์เตอร์แบรนด์


สวัสดีค่าาา
วันนี้เอาของดีมารีวิวให้ทุกคนอ่านกัน
หลายๆคนคงอยากจะซื้อเมคอัพแพงๆ เคาน์เตอร์ใช้กัน
แต่อาจจะรู้สึกว่าอยากหาอะไรที่ราคาไม่สูงมาก ที่มี
สี คุณภาพ Texture คล้ายๆกับแบรนด์แพงๆ มาใช้อะเนาะ

วันนี้ขวันได้รับเครื่องสำอางจาก CANMAKE มาลองใช้เซทนึงค่ะ

มีทั้งแป้ง บลัชออน ลิปสติก เยอะเลย

แล้วทีนี้พอได้ลองใช้ ขวันเลยอยากจะนำมาเทียบกับเคาน์เตอร์แบรนด์ที่ขวันมี
ว่าตัวไหนของ Canmake เหมือนกับเคาน์เตอร์แบรนด์ที่ขวันมีบ้าง

เดี๋ยวเราไปดูความคิดเห็นของขวันกันเลยน้า

ส่วนตัวคัดมาแล้วว่าคล้ายกันมากแน่ๆจ้า

รูปหมู่ คร่าวๆว่าขวันได้อะไรมาลองบ้าง

เครื่องสำอาง CANMAKE หลายคนน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้วเนอะ เป็นเครื่องสำอางคิวท์ๆ จากญี่ปุ่น
ที่มีขายตามร้าน Drugstore ต่างๆในไทยมานานแล้ว

เดี๋ยวเรามาเริ่มกันที่ตัวแรกกันเลยโน้ะ

Mashmello Finish Powder 

3 สี ตลับละ 450 บาท


นางเป็นแป้งฝุ่นอัดแข็งที่ขายดีมากกว่า 5 ล้านตลับในญี่ปุ่น ส่วนตัวขวันก็ชอบใช้มากเหมือนกันค่ะ
เนื่องจากว่ามันบางเบาสบายผิว และปกปิดรูขุมขนได้ดี ขวันชอบเอามาทาวันสบายๆ
หรือเอามาเซทรองพื้น เติมระหว่างวันก็ดีมากค่ะ 


แป้งตลับรุ่นนี้จะมี 3 สี
เรียงจากอ่อนไปเข้ม
ML > MO > MB

ส่วนตัวขวันว่ามันเหมือนกับแป้ง THREE Renewing Powder Foundation มากกกกกค่ะ
เนื่องจากตัวแป้งเนื้อบางเบา นุ่มเนียนเหมือนกันเลย

THREE ราคา 2,250 บาท 
 Canmake 450 บาท

ประหยัดไปเงินไป 1,800 บาท 

ระดับการปกปิด เนื้อสัมผัสอะไรคล้ายกันมาก ต่างกันที่พัฟ และแป้งทรีที่มี2สีในตลับแค่นั้นเองค่ะ
ไปลองดูเองเลยก็ได้นะ ถ้าไม่เชื่อ 55555 

ตัวต่อมา

 

CANMAKE

Stay-On Balm Rouge Tint

ราคา 290 บาท


ลิปทินต์ 3 สี แพคเกจจิ้งน่ารักมากก บำรุงระหว่างวัน และให้สีระเรื่อๆดูเป็นธรรมชาติ


ส่วนตัวขวันจะบอกว่ามันคล้าย 
Dior Lip Glow #01 มากกกกถึงมากกกที่สุด

และแคนเมคยังสีชัดกว่าด้วยนะ 5555555



Dior ราคา 1,200 บาท
Canmake ราคา 290 บาท 

ประหยัดเงินไป 910 บาท 

Texture บำรุงได้ดีเหมือนกัน สีระเรื่อๆเหมือนกัน ทาแล้วสีดูไม่ต่าง แต่ในเรื่องของความทนของสี Canmake  มาวินเลย เนื่องจากเป็น Tint ยิ่งทาสีจะยิ่งชัด และจะเป็นสีชัดบนปาก ในขณะที่ Dior จะสีชัดแต่สีจะไม่ติดในเนื้อปากค่ะ 


CANMAKE

Glow Fleur Cheek 

#08 ราคา 380 บาท


บอกเลยว่าอันนี้ดีงามมากกกก เป็นบลัชออนที่ขวันมีใช้ตั้งแต่สมัยเรียนเลย
ตัวนี้จะให้สีที่โปร่งแสง หมายความว่าเราทาไปแล้วสีจะไม่ทึบ จะยังมองเห็นแก้มใสๆอยู่
ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ และดูไม่โบะ ไม่เป็นตูดลิง

และเบอร์ 08 ของ Canmake ก็ยังเหมือนเบอร์ #01 ของ Jill Stuart Mix Blush Conpact มากด้วย


ตลับก็น่ารักเหมือนกัน ต่างกันตรงที่ว่าแคนเมคเค้ามีแปรงใส่ในกล่องให้เลย ส่วนของ Jill Stuart ไม่มีที่เก็บแปรงค่ะ ไล่สีคล้ายๆกันค่ะ


 นี่ไงงง เหมือนกันมากก มีความวิ้งเหลือบๆเหมือนกัน โปร่งแสงเหมือนกัน แต่สีของ Canmake จะดูอมม่วงกว่านิดๆ แต่พอปัดลงแก้มแล้วเเทบไม่แตกต่างเลยค่ะ

 ดูไม่ออกละสิว่าข้างไหนใช้แบรนด์อะไร 5555555 

Jill Stuart ราคา 1,650 บาท
Canmake ราคา 380 บาท

ประหยัดเงินไป 1,270 บาท

CANMAKE

MERMAID SKIN GEL UV 

spf 50 pa ++++

ราคา 300 บาท


จะบอกว่ากันแดดตัวนี้ก็ขายดีมากก เป็นสูตรเจล ที่แตกตัวเป็นน้ำเลย สบายผิว และให้ความชุ่มชื้นได้ดี ผิวมันใช้ได้ ไม่หนักผิว พร้อมด้วยสารสกัดจากธรรมชาติถึง 85% ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม สี 

 ตัวที่ขวันคิดว่าเหมือนมากนั่นก็ Anessa สีเงิน รุ่นหลอดบีบค่ะ จะเป็นเนื้อเจลๆเหมือนกัน 


 สังเกตดูจะเห็นว่า Canmake นั้นดูบางเบากว่า ไม่เหนียวเท่า และแตกตัวเป็นน้ำเกลี่ยลื่นกว่า

แต่ฟินนิชผิวก็ได้ลุคใสๆ ฉ่ำๆ เหมือนกัน แทบไม่แตกต่างกันเลยค่ะ 

Anessa ราคา 750 บาท
Canmake ราคา 300 บาท

ประหยัดเงินไป 450 บาท 

ตัวสุดท้ายยย 

 

CANMAKE

 Lasting Multi Eyebase WP

ราคา 250 บาท 

ตัวนี้เป็น Eye Primer ที่สามารถทาได้ทั้งเปลือกตา ให้สีอายแชร์โดว์ติดทน ไม่เลอะ หรือสามารถนำมาทาบริเวณคิ้วก่อนเขียนคิ้วได้ด้วย ซึ่งขวันลองแล้ว เวิร์คมากกก ขวันชอบเอามาทาคิ้วก่อนเขียนคิ้วแบบฝุ่น มันทำให้สีติดทน และไม่เลือนหายระหว่างวัน 


แฝดคนละฝาคือ Toofaced Shadow Insurance 


ส่วนตัวว่าเนื้อคล้ายๆกัน แต่ของ Toofaced จะเหมือนมีน้ำมันๆออกมานิดๆ 
แต่ของ Canmake จะแห้ง และหนืดกว่า แต่พอทาออกมาก็แทบมองไม่เห็นเหมือนกัน

ขวันลองปาด Eyeshadow สีเดียวกันให้ดูเลยค่ะ 
จะบอกว่าสีอายแชร์โดว์ฝั่งที่ทาด้วย Toofaced จะมีความตรงสีในตลับมากกว่า
ส่วนของ Canmake จะเข้มกว่านิดๆ ซึ่งขวันกลับชอบมากกว่า 55555 มันเข้มดี 

เกลี่ยลื่นง่าย สีติดชัด ทนทานระหว่างวันเหมือนกันเลยค่ะ 

Toofaced Shadow Insurance ราคา 1,090 บาท
Canmake Lasting Multi Eyebase ราคา 250 บาท 

ประหยัดไป 840 บาท


สำหรับใครที่ยังไม่เคยลอง บอกเลยว่าต้องไปลองนะคะ สินค้าหลายอย่างของ Canmake คือดีมากๆ
หลายตัวราคาถูกมาก เมื่อเทียบกับคุณภาพ เป็นของดีราคาถูกที่หาซื้อได้ง่ายเลย

สำหรับวันนี้ขวันก็ไปก่อนน้า

บ๊ายบายค่า

วันจันทร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2560

รีวิว+Howto แต่งตาสไตล์สาว Parisienne L’Oreal Paris Super Liner DUO Designer



สวัสดีค่าทุกคน
บล๊อกนี้ขวันก็จะมาเห่อของใหม่จาก ลอรีอัล ปารีสค้าาาา 

นั่นก็คืออายไลน์เนอร์รุ่นล่าสุด ที่มี 2 หัว ทั้งด้านปากกาหัวฟองน้ำ และด้านดินสอ
ที่มีด้วยกัน 3 สีด้วยกัน สีดำ ทอง และเงินเมทัลลิค

Super Liner Duo Designer 
ราคา 399 บาท



ซึ่งขวันมองว่ามันสะดวกม๊ากกกก เพราะเราไม่จำเป็นต้องพกถึง 2 แท่ง
ที่สำคัญคือมีให้เราเลือกได้เลย ว่าชอบสีไหน


อายไลน์เนอร์แต่ละสี ดูเผินๆคล้ายกันมากกกก เราสามารถดูได้ตรงวงสี ด้านขวาของแท่งนะคะ
มันจะมีสีเงิน(ที่ไม่เงา) คือสีดำ
สีเงินวาวๆ จะเป็นเนื้อดินสอสีเงิน
สีทองจะเป็นเนื้อดินสอสีทองค่ะ


 นี่เลยยยย ด้านนึงจะเป็นฟองน้ำนิ่มๆ สำหรับวาดอายไลน์เนอร์เส้นคมๆ
อีกด้านจะเป็นสอ 3 สีค่ะ


ซูมมมให้ดู หัวฟองน้ำยาวๆแบบนี้ขวันชอบมาก เพราะเราสามารถวาดเส้นเรียวเล็ก หรือจะวาดเส้นหนาๆ ด้วยการกำหนดน้ำหนักมือได้ด้วย 


เนื้อดินสอก็เนื้อนุ่มมากก สีค่อนข้างชัดเลยค่ะ โดยเฉพาะสีดำคือเข้ม ดำสนิท สะใจมาก


เรียงสวอช บนสุดจะเป็นหัวปากกาฟองน้ำ
ดินสอสีดำ
ดินสอสีเงิน
และดินสอสีทอง

นี่เลยยย สีชัดมากกกก หัวปากกาคือสีก็ดำ เข้มสนิทดีมากๆ พิกเมนต์แน่นมากจริงๆ


นี่ขนาดขวันล้างด้วยคลีนซิ่งวอเทอร์แล้วนะ ยังไม่ค่อยจะยอมออกกันเลย
ต้องล้างด้วยออยล์เท่านั้นงะ ถึงจะออก ขอคอนเฟิร์มว่ากันน้ำดีมากๆ

ทีนี้เดี๋ยวขวันจะมาครีเอทลุค Flirt Like a Parisienne สไตล์ของขวันเองให้ทุกคนดูนะคะ
รับรองว่าไม่ยากเลย 

เดี๋ยวเราจะมาเริ่มที่งานผิวกันก่อนเลยค่ะ




ขวันใช้ 
Lucent Magique Porecelain Cushion
รุ่นใหม่จาก L'oreal Paris จะบอกว่ามันเป็นเนื้อเจลที่ติดทนมาก
ขวันชอบมากกกกก ทาแล้วผิวฉ่ำสวย แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะจนเกินไป ติดทน ไม่เยิ้มเลยค่ะ



หลังจากนั้นขวันก็ลงคอนทัวร์
InFalliable Pro Contour
บางๆ เพื่อให้หน้าดูมีมิติมากขึ้นด้วยพาเลทของลอรีอัล


เขียนคิ้วด้วย  Brow Artist Designer Pro ขวันเลือกเขียนสีน้ำตาลอ่อนค่ะ ดินสอเขียนคิ้วนี้ก็ใช้สะดวกมาก
มีหัวดินสอสำหรับวาดคิ้ว หัวแปรงสำหรับปัด และหัวฟองน้ำสำหรับทาสีคิ้วให้เข้มขึ้น

เขียนเสร็จก็จะได้ประมาณนี้เลยค่ะ

ทีนี้เราก็จะมาแต่งตากันเลยยย 


โดยลุคนี้ขวันใช้ พาเลทอายแชร์โดว์จาก L'oreal  La Palette Gold
และSuperliner Duo Designer สีทองสำหรับลุคนี้ค่า

  1. อันนี้ไม่มีอะไร ใครใคร่ติดเทปตา 2 ชั้นก็ได้นะ แต่ลุคนี้ขวันจะไม่ใช้ค่ะ
  2. ทาสีแชมเปญ ชิมเมอร์นิดๆทั่วเปลือกตา
  3. คัดเบ้าเป็นตัว V เล็กๆ ด้วยสีน้ำตาลที่เข้มขึ้นมาอีก 1 เฉด
  4. หลังจากนั้นขวันจะใช้ไลน์เนอร์ดินสอสีทอง ระบายให้ทั่วรอยพับตา อย่าให้สูงกว่านั้นมากนะคะ และทาสีทองที่ขอบตาล่าง บริเวณหัวตา
  5. ทาเสร็จจะได้ประมาณนี้
  6. ทาสีน้ำตาลเข้มสุด บริเวณหางตา
  7. ใช้แปรงพุ่มๆ เบลนด์สีตาบริเวณหางตาให้นัวๆ แล้วกรีดไลน์เนอร์เส้นบางๆ
  8. ใช้มาสคาร่าปัดขนตาค่ะ ลุคนี้ขวันจะไม่ติดขนตาปลอม


ลุคนี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่า ขวันทาลิปสติกของL'oreal สี Barely Coral หรือจะเลือกสีชมพูตุ่นๆแบบในรูปก็ได้ค่า


สำหรับใครที่ชอบลุคนี้ก็ไปลองแต่งตามกันได้น้า
ถ้าใครสนใจอายไลน์เนอร์ 2 หัวสุดฮิต Super liner Duo designer
สามารถหาซื้อได้แล้วที่เค้าเตอร์ลอรีอัลทุกสาขา หรือจะช้อปออนไลน์ใน Lazada ก็ได้ค่า 

วันนี้ขวันก็ลาไปก่อนค่า 

สวัสดีค่าาา 

:D 



วันเสาร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2560

CP-1 ทรีทเม้นหลอดฉีดยาตัวดังจากเกาหลี



สวัสดีค่าทุกคนนน
วันนี้ก็จะมารีวิวทรีทเม้นท์ สำหรับเส้นผม ที่เหมาะกับคนที่
  • ทำสีผมมาอย่างหนักหน่วง
  • ผมแห้งกรอบเสีย
  • ผ่านการทำเคมี เช่นการยืด ดัด
  • ผมชี้ฟู 
ซึ่งตัวที่ขวันจะมารีวิว ขวันชอบมากกกกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
เพราะเคยซื้อมาลองใช้เมื่อปีก่อน

เคยรีวิวไปแล้วรอบนึงในทวิตเตอร์และเฟสบุค ถ้าทุกคนจำกันได้ 


คือตอนนั้นใช้แล้วเห็นผลทันทีเลยนะ คือผมเงา สวยมากกกก ขวันเลยได้มีโอกาสซื้อมาใช้บ่อยๆ

วันนี้เลยจะมารีวิวเต็มๆให้ดูกันเนอะ

CP-1

Ceraminde Treatment Protein Repair System

ปริมาณ 25 ml 


คือนางมาในรูปแบบของหลอดฉีดยา น่าใช้มากกกกกก เหมือนได้ฉีดบำรุงผมงี้

วิธีการใช้ก็ง่ายมากค่ะ 

สำหรับวันไหนที่อยากบำรุงผมเป็นพิเศษ ก็กดออกมาใช้หลังสระผมด้วยแชมพู
เราสามารถใช้แทนครีมนวด หรือจะใช้เป็นที่หมักผมก็ได้ค่ะ

โดยนวด แล้วทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาทีก็ได้ค่ะ


เนื้อทรีทเมนท์หนาแน่นมากก สีเหลืองเหมือนข้าวโพด มีกลิ่นหอมอ่อนๆ กลิ่นไม่แรง
ส่วนตัวอยากให้มีกลิ่นหอมมากกว่านี้หน่อย จะได้ติดผมดีกว่านี้


สำหรับผมสั้นแบบขวัน ใช้แค่นี้ก็พอค่ะ เพราะงก 55555555
แต่หลังกล่องเค้าบอกว่าให้ใช้ครึ่งหลอดค่ะ
สำหรับผมยาวก็ใช้เต็มหลอดเลย 


นี่คือสภาพผมขวันค่ะ
เพิ่งทำสีมาได้ 2 อาทิตย์เองมั้ง ผมกำลังเเห้งเสียได้ที่เลยค่ะ 55555555 
ในรุปนี่คือหวีผมแล้วนะคะ ผมยังดูชี้ฟูเบาๆ 


ขวันใช้แทนครีมนวด แล้วทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีค่ะ นวดๆให้มันซึมดีลงไปในเส้นผม
พอสระเสร็จ เช็ดหมาดๆ จะเห็นว่าผมไม่พัน ไม่ยุ่ยเท่าไหร่ จากปกติที่เช็ดผมแล้วผมจะพันๆกัน


ทาด้าาาาาาาาาา ผมดูเงาสวยขึ้นมากกก ของจริงคือผมจะลื่นมือขึ้นมาก
 เงาสะท้อนแสงดี ต่างจากตอนแรก

คืออธิบายก่อนว่าเส้นผมเราจะมีเกล็ดผม เหมือนเกล็ดปลาเล็กๆๆทั่วเส้นผม
พอเราทำเคมี ทำสี เกล็ดผมจะเผยอออก ทำให้เวลาแสงตกกระทบผม มันจะไม่สะท้อน

แต่พอผมได้รับการบำรุง โดยใช้ทรีทเม้นต์ของ Cp-1 เกล็ดผมลู่ และเรียบขึ้น ทำให้ผมเงา สะท้อนแสงได้ดีขึ้น 


หลังจากม้วนผม คือยิ่งเงาไปอีก พอเราเอาเครื่องม้วนผมม้วน มันจะไม่แห้งเลย ผมยังสปริงตัวสวย

สำหรับใครที่อยากลอง
ขวันแนะนำมากๆๆๆ อยากให้ทุกคนได้ลองค่ะ

ส่วนตัวขวันว่ามันบำรุงผมได้ดี แต่ผมไม่ค่อยหอม เพราะมันกลิ่นน้ำหอมน้อยอ่ะ 

แต่ก็ยังชอบอยู่ดีค่ะ

สามารถหาซื้อได้ที่

ในราคา บาท


วันนี้ขวันก็ไปก่อนน้า 

บ๊ายบายค้า


วันอังคารที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2560

หน้าขาวใสอมชมพู ไม่ต้องใช้ฟิลเตอร์เลยนาจา เพราะมี Olay Natural White Pinkish


สวัสดีค่าาา
บล็อกนี้ขวันก็จะมาแนะนำผลิตภัณฑ์สกินแคร์ และเครื่องสำอางที่จะช่วยทำให้
สาวๆทุกคนมีผิวขาวใสสุขภาพดี  แบบไม่ง้อฟิลเตอร์กันเน้อะ

ขวันจะแนะนำเป็นแบบสกินแคร์ที่ราคาไม่แพง รับรองว่าทุกคนสามารถซื้อตามได้แน่นอนน

เรามาเริ่มกันที่เครื่องสำอางก่อนเลย
เพื่อความขาวใสทันใจ แบบไม่ต้องรอนาน 555555 


  1. Majolica Majorca Cream de Cheek Liquid Blush




    ตัวนี้ขวันชอบมากกกกก มันจะเป็นครีมบลัชเนื้อน้ำเหลวๆ ที่สามารถนำมาแตะๆที่แก้มทำให้แก้มเราดูอมชมพูสุขภาพดีได้เนียนมากๆ แนะนำทริคว่าสามารถนำมาแตะๆที่ริมฝีปาก เพื่อให้ปากดูชมพูระเรื่อได้ด้วย

     2. น้ำมะเขือเทศดอยคำ หรือ น้ำเสาวรสดอยคำ 



    ไม่เชื่อก็ต้องเชื่ออออ กินติดต่อกันซักเดือน 1 รับรองเห็นผลเลยยยย คอนเฟิร์มโดยทั้งขวันและน้องสาว ขวันชอบเอามาผสมกันกิน เพราะรสชาติจะดีกว่ากินน้ำมะเขือเทศเพียวๆ แก้มจะใสขึ้น จะเห็นความแดงระเรื่อที่แก้มบางๆ ตอนหลังล้างหน้าเสร็จ หรือตอนออกกำลังกาย แก้มจะชมพูขึ้นเลย

    3. Fyne BHA + Salisylic 2% 



    ตัวนี้จะเป็นตัวที่ขวันใช้เป็นขั้นตอนแรกหลังล้างหน้าเลย เพราะตัวนี้จะช่วยผลัดเซลส์ผิวได้อย่างอ่อนโยน พวกสิวอุดตันจะน้อยลง สิวจะเเห้งไวขึ้น แต่อย่าใช้เยอะเกินนะคะ เพราะมันจะทำให้ผิวหน้าลอกได้ พอผิวหน้าได้ผลัดเซลส์ผิว ผิวเราจะดูเรียบเนียนขึ้น และดูกระจ่างใสขึ้นค่ะ 

    Olay Natural White Pinkish Fairness Day Cream SPF24 PA++
    ครีมโอเลย์ที่ทุกคนรู้จักกันดี ที่สำคัญรุ่นนี้ราคาเบาๆ สบายกระเป๋ามาก เพราะราคาแค่ 109 บาท เองค่ะ และหาซื้อง่าย ที่ 7-11 ก็มีขายน้า
    รุ่นนี้จะมีส่วนผสมที่ทำให้ผิวเราดูกระจ่างใส อมชมมพูขึ้น ขวันจะใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายเลยค่ะ เพราะเป็นเนื้อครีม 

    ถ้าใครสงสัยว่าเราควรลงสกินแคร์แบบไหนก่อน ให้ลองสังเกตเนื้อผลิตภัณฑ์นะคะ ให้ลงตัวที่ซึมไวที่สุดก่อน แล้วตัวที่ซึมช้าสุดเอาไว้ทีหลังเลยค่ะ




     
    ตัวนี้จะมีส่วนผสมจากสารสกัดน้ำนมบริสุทธิ์
    ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ให้ความชุ่มชื้นกับผิว
    และยังมีสารสกัดกุหลาบฝรั่งเศส
    ช่วยปรับสีผิวที่หมองคล้ำ ไม่สม่ำเสมอ ให้กระจ่างใสขึ้น

    และสุดท้าย ยังมี
    SPF 24 PA++ด้วย ป้องกันผิวจากแสงแดดได้ 

    เนื้อครีมจะเป็นสีขาวขุ่นๆ เนื้อดูหนา แต่จริงๆแล้วเกลี่ยง่าย และซึมค่อนข้างไวเลย
    มีกลิ่นหอมอ่อนๆด้วยค่ะ


    พอซึมแล้ว เนื่องจากเนื้อครีมเป็นสีขาว ทำให้ผิวเราดูกระจ่างใสขึ้นนิดๆทันทีหลังทาด้วย


    วิธีการทา สำหรับใครที่ชอบนวดๆผิว ก็แต้มลงบนผิวได้เลย หรือจะวอร์มบนฝ่ามือก่อนทาก็ได้ค่ะ
    วิธีนี้จะทำให้ความร้อนที่ฝ่ามือ ช่วยทำให้ครีมซึมไวขึ้นด้วย 


    แนะนำให้เอามือทาบหน้าเบาๆ กดๆให้ทั่วหน้านะคะ ขวันจะไม่ใช้วิธีลากไปบนผิว
    เพราะจะทำให้หน้าเหี่ยวได้


    ขวันจะใช้ครีมตัวนี้ตอนเช้านะคะ เพราะเนื่องจากมันมีกันแดดด้วย ก็เท่ากับเราสามารถลดขั้นตอนการบำรุงผิวไปได้1สเตปด้วย 

    ขวันว่าครีมนี้เหมาะมากๆกับน้องๆวัยนักเรียน
    ที่อยากหาสกินแคร์ราคาไม่แพงใช้ และด้วยยังไม่มีปัญหาผิวอะไรมาก  ทาแล้วผิวดูขาวขึ้น 1 สเตป วันไปเรียนก็อาจจะแค่ปัดแป้งฝุ่น บลัชออนนิดๆก็น่ารัก ดูผิวสวยใสแล้ว


    ใครที่อยากลองก็ไปหาซื้อได้แล้วที่ 7-11 นะค้า
    ราคา 109  บาทค่า


    สำหรับบล็อกนี้ขวันก็ไปก่อนน้า 

    บ๊ายบายยย 
    :D

#Olaythailand #OlayNaturalWhite #SponsoredByOlay